ปี 2565-2566 น้ำตาลทรายจะเป็นหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผลักดันการส่งออกสินค้าอาหารและเครื่องดื่มของไทย โดยได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำตาลในตลาดโลกที่ยืนตัวสูง ปริมาณผลผลิตน้ำตาลทรายของไทยที่กลับมาฟื้นตัว ท่ามกลางสถานการณ์โควิดในหลายประเทศที่เริ่มคลี่คลายและวิกฤตอาหารทั่วโลก จึงทำให้น้ำตาลทรายยังเป็นที่ต้องการ แต่ก็มีความท้าทาย ดังนี้
- อุปทานน้ำตาลทรายโลกเพิ่มขึ้น อาจทำให้ราคาน้ำตาลทรายโลกและราคาส่งออกน้ำตาลทรายของไทยลดลง ซึ่งคาดว่าราคาน้ำตาลทรายล่วงหน้าในตลาดโลกปี 2566 อาจเฉลี่ยอยู่ที่ 17.6-18.6 เซนต์ต่อปอนด์ ลดลงเล็กน้อยจากปี 2565
- การแข่งขันด้านราคาในตลาดค้าน้ำตาลทรายโลก โดยเฉพาะกับคู่แข่งสำคัญอย่าง บราซิลซึ่งมีราคาต่อหน่วยต่ำกว่า
- ข้อสรุปที่ยังไม่ชัดเจนของร่าง พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทรายฉบับใหม่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการผลิตและการส่งออกน้ำตาลทรายในระยะข้างหน้า
- นโยบายพึ่งพาการผลิตภายในประเทศและเทรนด์การบริโภคน้ำตาลที่อาจลดลงของคู่ค้า ซึ่งจะมีผลต่อทิศทางการผลิตและส่งออกน้ำตาลทรายของไทยในระยะต่อไป
ดังนั้น แม้ว่ายังมีโอกาสทางการค้า แต่เพราะปัจจัยท้าทายต่าง ๆ กอปรกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีความไม่แน่นอนสูง ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า มูลค่าส่งออกน้ำตาลทรายไทยปี 2566 จะอยู่ที่ระดับ 3,590-3,730 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 1-5% เมื่อเทียบกับปี 2565 ที่คาดว่าจะขยายตัวถึง 125% เนื่องจากฐานที่ต่ำในช่วงปี 2563-2564 จากผลกระทบโควิด ที่ทำให้ปริมาณผลผลิตและสต็อกน้ำตาลทรายของไทยเพียงพอกับความต้องการในตลาดส่งออก ทั้งนี้ ปี 2566 การเติบโตจะเป็นผลจากปริมาณส่งออกเป็นหลัก ซึ่งน่าจะเพิ่มขึ้นจากตลาดคู่ค้าหลัก อาทิ อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ และจากคู่ค้าใหม่ที่หาตลาดทดแทนจากมาตรการจำกัดการส่งออกน้ำตาลทรายของอินเดีย อาทิ จีน ซูดาน แทนซาเนียและเคนยา ขณะที่การเติบโตจากฝั่งราคาอาจลดลงตามทิศทางราคาน้ำตาลในตลาดโลก
|
Click ชมคลิป
ส่งออกน้ำตาลทรายไทย ปี 66...คาดโต 1-5% |
Scan QR Code
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น