Display mode (Doesn't show in master page preview)

24 กรกฎาคม 2568

Econ Digest

ส่งออกไทยครึ่งแรกปี 2568 สูงกว่าคาดที่ 15% YoY คาดครึ่งหลังหดตัว -10% YoY

คะแนนเฉลี่ย
การส่งออกไทยเดือนมิ.ย. 2568 ขยายตัวดีต่อเนื่องที่ 15.5%YoY โดยหากหักทองคำการส่งออกไทยจะขยายตัวอยู่ที่ 13.4%YoY มาจากปัจจัย ดังนี้ (รูปที่ 1)
  • การเร่งส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะการส่งออกคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ และแผงวงจร ไปยังตลาดต่างๆ ก่อนภาษีตอบโต้ (Reciprocal tariff) ของสหรัฐฯ จะมีผลบังคับใช้ และมีปัจจัยสนับสนุนจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นตามอุตสาหกรรม data center
  • การส่งออกผลไม้อย่างทุเรียนสดไปจีนเข้ามาช่วยหนุน จากปัจจัยฐานที่ต่ำของช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้า โดยปี 2568 สภาพอากาศทำให้ผลผลิตออกช้ากว่าปกติ แต่ภาพรวมการส่งออกทุเรียนไทยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้หดตัวอยู่ที่ -5.4%YoY โดยถูกกดดันจากปัจจัยด้านราคาเป็นสำคัญ

o    การส่งออกไทยในช่วงครึ่งปีแรกขยายตัวสูง 15.0%YoY โดยมีมูลค่าเฉลี่ยต่อเดือนสูงกว่าค่าเฉลี่ยของช่วงเดียวกันของ 3 ปีก่อนหน้า (2565-2567) ที่ราว +3,550 ล้านดอลลาร์ฯ สะท้อนการเร่งนำเข้าสินค้าของตลาดต่างๆ ก่อนมาตรการปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ จะมีผล 1 ส.ค. 2568 ขณะที่การนำเข้าไทยในช่วงครึ่งปีแรกก็ขยายตัวสูงที่ 11.6%YoY ส่งผลให้ไทยยังขาดดุลการค้าอยู่ที่ 62 ล้านดอลลาร์ฯ

o    ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 การส่งออกไทยมีแนวโน้มหดตัวราว 10%YoY หลังมีการเร่งส่งออกสินค้าไปในช่วงก่อนหน้า และมีแนวโน้มว่าสหรัฐฯ จะนำเข้าสินค้าลดลงเพื่อบริหารต้นทุนการคงคลังสินค้า โดยในเดือนก.ค. 2568 ปริมาณเรือที่ออกจากท่าเรือไทยลดลงต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นปี (รูปที่ 2) สอดคล้องค่าระวางเรือไปยังสหรัฐฯ ที่ปรับลดลงตามอุปสงค์ที่ชะลอลง

o    ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงประมาณการส่งออกไทยในปี 2568 อยู่ที่ 1.5% แต่ยังต้องติดตามผลการเจรจาอัตราภาษีที่ไทยจะได้รับในวันที่ 1 ส.ค. 2568 อย่างไรก็ดี แม้ว่าไทยจะถูกเก็บภาษี Reciprocal tariff สูงกว่าประเทศอื่นในภูมิภาค แต่ผลกระทบต่อการส่งออกคงเพิ่มขึ้นจากที่ประเมินไว้เดิมไม่มากนัก เนื่องจากสินค้าหลายรายการที่ไทยส่งออกไปสหรัฐฯ ไม่เข้าข่ายถูกเก็บภาษีภายใต้ Reciprocal tariff แต่ถูกจัดเก็บภาษีเฉพาะรายอุตสาหกรรมตาม มาตรา 232 ซึ่งกำหนดอัตราเท่ากันทุกประเทศ (รูปที่ 3)

o    อย่างไรก็ตาม ยังต้องจับตาการประกาศขยายรายการสินค้าภายใต้ section 232 ในช่วงครึ่งหลังของปี เช่น เซมิคอนดักเตอร์ และไม้แปรรูป เป็นต้น ซึ่งอาจกระทบการส่งออกไทยไปถึงปี 2569

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น