Display mode (Doesn't show in master page preview)

22 พฤษภาคม 2566

Econ Digest

เอลนีโญ ปี 66 กดดันผลผลิตข้าวนาปีลดลง

คะแนนเฉลี่ย

        จากการเริ่มต้นฤดูฝน และฤดูกาลเพาะปลูกข้าวนาปีของเกษตรกรไทยในปี 2566 (หลังวันพืชมงคลของทุกปี) ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ด้วยราคาข้าวที่ยืนสูง และความความต้องการในตลาดโลกที่สูง จะจูงใจให้เกษตรกรส่วนใหญ่ยังคงปลูกข้าว และเป็นโอกาสของไทยในการส่งออกข้าวเพิ่มขึ้น แม้จะเผชิญต้นทุนการผลิตที่สูง แต่การเข้าสู่ปรากฏการณ์เอลนีโญในช่วงครึ่งหลังของปี ซึ่งเป็นช่วงที่ต้นข้าวต้องการน้ำมากขึ้นหลังจากเริ่มปลูกในเดือนพ.ค.จนกระทั่งเก็บเกี่ยว อาจส่งผลกระทบต่อผลผลิตข้าวนาปี

        โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า หากเอลนีโญไม่รุนแรงนัก ผลผลิตข้าวนาปีในปี 2566 อาจลดลงราว 4.1-6.0% หรือมีปริมาณอยู่ที่ 25.1-25.6 ล้านตัน ซึ่งเมื่อรวมกับผลผลิตข้าวนาปรังที่ราว 7.6 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้น 23.4% (YoY) จากต้นทุนน้ำในเขื่อนที่อยู่ในเกณฑ์ดี ทำให้ผลผลิตข้าวรวมของไทยในปี 2566 อาจอยู่ที่ราว 32.7-33.2 ล้านตัน ก็น่าจะเป็นปริมาณผลผลิตข้าวรวม ที่ยังเพียงพอสำหรับการบริโภคในประเทศ และการส่งออกที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากปี 2565 แต่หากเกิดภาวะแล้งจัด หรือฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานาน ก็อาจทำให้ผลผลิตข้าวนาปีเสียหายมากขึ้น และอาจกระทบต่อผลผลิตข้าวรวมทั้งประเทศให้ต่ำกว่ากรอบที่ประเมินไว้

        สำหรับในปี 2567 จากปรากฏการณ์เอลนีโญ อาจส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนที่สะสมมาในช่วงปลายปี 2566 ให้ลดลง ซึ่งเป็นน้ำที่ใช้สำหรับปลูกข้าวนาปรังในปี 2567 ประกอบกับการคาดการณ์ว่าเอลนีโญน่าจะกินระยะเวลานาน จึงมีความเสี่ยงที่ทั้งผลผลิตข้าวนาปรังและนาปีของไทยในปี 2567 คงจะลดลง ดังนั้น การวางแผนบริหารจัดการน้ำ จึงเป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วน

 


Click
 ชมคลิป เอลนีโญ ปี 66 กดดันผลผลิตข้าวนาปีลดลง

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest