การเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ ในเดือนพ.ย. 2565 ผลการนับคะแนนในเบื้องต้น พรรครีพับลิกันมีแนวโน้มสูงที่จะครองสภาผู้แทนราษฎร ในขณะที่วุฒิสภายังมีคะแนนสูสี ซึ่งการที่พรรคเดโมแครตสูญเสียเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรจากการเลือกตั้งครั้งนี้ จะส่งผลต่อการบริหารงานของนายโจ ไบเดนในอีก 2 ปีข้างหน้า ทำให้การผ่านร่างกฎหมายสำคัญหลังจากนี้ไม่ง่าย เนื่องจากผลคะแนนเสียงของพรรครีพับลิกันที่ชนะไม่ขาดในสภาผู้แทนราษฏร และคะแนนเสียงในสภาสูงของพรรคเดโมแครตก็สูสี นอกจากนี้รัฐบาลจะเผชิญข้อจำกัดในการขยายเพดานหนี้ ซึ่งอาจต้องแลกมาด้วยปรับลดการใช้จ่ายจำนวนมาก และนโยบายประชานิยมจะกลายมาเป็นเครื่องมือต่อรองทางการเมืองในช่วง 2 ปีข้างหน้า โดยรีพับลิกันคงใช้แต้มต่อในสภาล่างเดินหน้าขัดขวางนโยบายของนายโจ ไบเดน บั่นทอนคะแนนนิยมของของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับมาตรการทางเศรษฐกิจ และสวัสดิการสังคมในขณะที่นโยบายด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ จะไม่เปลี่ยนอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะท่าทีที่มีต่อจีน
แต่อย่างไรก็ตาม ผลการเลือกตั้งกลางเทอม คงไม่ได้เปลี่ยนภาพทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯอย่างมีนัยสำคัญ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า หากพิจารณาตัวเลขทั้งปี 2566 เศรษฐกิจสหรัฐฯ คาดว่าจะแทบไม่ขยายตัวจากปี 2565 หรืออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจอยู่ที่ราว 0% ในกรณีฐาน และหากเงินเฟ้อไม่ลดลงตามคาด เฟดอาจจำเป็นต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยแรงขึ้นกว่าที่คาด เศรษฐกิจสหรัฐฯ คงหดตัวลึกกว่าที่คาด หรือมากกว่า 2 ไตรมาส ส่งผลให้ทั้งปี 2566 เศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจหดตัวลงได้
สำหรับผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ในกรณีที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่โต จะกดดันการส่งออกของไทยที่ต้องเผชิญกับการส่งออกฐานที่สูงในปีนี้ ทำให้คาดว่าการส่งออกไทยไปสหรัฐฯ จะเติบโตเชื่องช้าลงเหลือเลขหลักเดียวที่ 1.1% โดยมีมูลค่าส่งออกราว 50,000 ล้านดอลลาร์ฯ จากปัจจุบันที่สหรัฐฯ เป็นตลาดอันดับ 1 ของไทยและเป็นตลาดที่เติบโตดีที่สุด โดยการส่งออกไทยไปสหรัฐฯ ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 ขยายตัวสูงถึง 18.9% และมีมูลค่าถึง 36,447 ล้านดอลลาร์ฯ
Scan QR Code
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น