Display mode (Doesn't show in master page preview)

27 ธันวาคม 2562

Econ Digest

ธปท.ปรับเป้า...เงินเฟ้อ ตามภาวะเศรษฐกิจ ปี 63

คะแนนเฉลี่ย

ช่วงปลายปีของทุกๆ ปี เป็นช่วงที่จะมีการเปิดเผยเป้าหมายนโยบายการเงินที่จะใช้ในปีถัดไป ซึ่งเป้าหมายดังกล่าวเป็นข้อตกลงร่วมกันระหว่างคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

สำหรับในปีหน้า ไทยยังใช้การกำหนดเป้าหมายของอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเป็นเป้าหมายนโยบายการเงินเช่นเดิม แต่จุดที่จะเปลี่ยนไป ก็คือ จะมีการกำหนดเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2563 ไว้ในช่วง 1.0-3.0% (โดยไม่มีการกำหนดค่ากลาง) ซึ่งแตกต่างจากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ที่มีการกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อไว้ที่ระดับ 2.5% ± 1.5% นอกจากนี้ ตามเกณฑ์ใหม่ธปท. จะต้องออกจดหมายเปิดผนึกถึง รมว. คลังทุกๆ 6 เดือน หากเงินเฟ้อเฉลี่ย 12 เดือนที่ผ่านมา หรือประมาณการเงินเฟ้อ 12 เดือนข้างหน้า ออกนอกกรอบเป้าหมายดังกล่าว




การปรับเปลี่ยนกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อของไทยนั้น มีความสอดคล้องกับธนาคารกลางของหลายๆ ประเทศที่มีการเปลี่ยนเงินเฟ้อเป้าหมาย โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ธนาคารกลางเกาหลีใต้ ธนาคารกลางอินโดนีเซีย และธนาคารกลางนอร์เวย์ ต่างก็ปรับลดกรอบเงินเฟ้อเป้าหมายลงมา เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อซึ่งมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำโดยเป็นผลมาจากการปรับเปลี่ยนของปัจจัยเชิงโครงสร้าง ทั้งในเรื่องของเทคโนโลยี บทบาทของธุรกิจ e-commerce และสังคมผู้สูงอายุ

 

แม้จะมีกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อใหม่ในปี 2563 แต่การพิจารณานโยบายการเงินของ กนง. ยังคงไม่ต่างไปจากเดิม ซึ่งจะมีการพิจารณาข้อมูลรอบด้าน และปรับเปลี่ยนเครื่องมือนโยบายการเงิน อาทิ อัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อดูแลเสถียรภาพของระดับราคา (อัตราเงินเฟ้อเป็นไปตามเป้าหมาย) ควบคู่กับการเติบโตของเศรษฐกิจและเสถียรภาพของระบบการเงินโดยรวม 


Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest