Display mode (Doesn't show in master page preview)

16 มีนาคม 2564

Econ Digest

ประชุม 16-17 มี.ค. 64 คาด...เฟดคงดอกเบี้ยที่ 0.0-0.25% เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

คะแนนเฉลี่ย

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาด เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.0-0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินวันที่ 16-17 มี.ค. นี้ โดยแม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะส่งสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้น แต่ก็น่าจะใช้เวลาอีกระยะหนึ่งกว่าจะกลับมาขยายตัวเต็มที่ ทำให้เฟดน่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยฯ ที่ระดับใกล้ศูนย์ และคงวงเงินซื้อสินทรัพย์ต่อเดือนที่ 1.2 แสนล้านดอลลาร์ฯ เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ขณะที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจทำให้เงินเฟ้อมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น แต่ก็คาดว่าอัตราเงินเฟ้อน่าจะไม่เพิ่มสูงขึ้นเกิน 2.0% อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเฟดจึงยังไม่มีความจำเป็นต้องรีบถอนนโยบายกระตุ้นทางการเงินเพื่อชะลอความร้อนแรงทางเศรษฐกิจ

ในการประชุมครั้งนี้ เฟดจะมีการแถลงประมาณการเศรษฐกิจ ซึ่งคาดว่าเฟดจะปรับคาดการณ์เศรษฐกิจปี 2564 ดีขึ้น และปรับคาดการณ์เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยเฟดน่าจะมีท่าทีระมัดระวังในการสื่อสาร เพื่อไม่ให้ตลาดคาดการณ์การปรับขึ้นดอกเบี้ยนเร็วเกินไป ซึ่งในประมาณการการปรับดอกเบี้ยของเฟดน่าจะยังไม่บ่งชี้ว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้

แม้ตลาดจะมองว่าเฟดอาจใช้มาตรการเพิ่มการถือครองพันธบัตรระยะยาวและลดการถือครองพันธบัตรระยะสั้น หรือใช้มาตรการควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนในระยะข้างหน้า เพื่อกดอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวไม่ให้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า เฟดน่าจะคอยติดตามสถานการณ์โดยชั่งน้ำน้ำหนักข้อดี-ข้อเสียของการนำมาตรการทางเลือกดังกล่าวมาใช้ ขณะเดียวกันเฟดน่าจะเลือกใช้วิธีการสื่อสารให้ตลาดคลายกังวลว่าแม้เศรษฐกิจจะฟื้นตัวแต่เงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ

ทั้งนี้ การปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ทำให้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับสูงขึ้นตาม ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการกู้ยืมเพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวช้ากว่าเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งประเด็นเหล่านี้เป็นโจทย์ท้าทายของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ต้องคอยติดตามและพิจารณาออกมาตรการที่เหมาะสมต่อไป


Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest