ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาด บรรยากาศการท่องเที่ยวในประเทศช่วงสงกรานต์ปี 2565 นี้ น่าจะดีขึ้น เนื่องจากคนในประเทศส่วนใหญ่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็ม 1 เข็ม 2 และเข็มกระตุ้น ทำให้คนส่วนหนึ่งมีความเชื่อมั่นที่จะเดินทางท่องเที่ยว อีกทั้งปีนี้ ศบค. ได้ผ่อนคลายให้สามารถจัดกิจกรรมสงกรานต์ ขบวนแห่ สาดน้ำ และจัดกิจกรรมสันทนาการได้ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด รวมถึงผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวกลับมาทำโปรโมชั่นกระตุ้นการท่องเที่ยว และยังมีปัจจัยหนุนจากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน อย่างไรก็ดี จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใหม่รายวันที่ยังอยู่ในระดับสูง และภาวะค่าครองชีพที่สูงจากราคาสินค้าและพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น คงจะสร้างความกังวลต่อการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวของประชาชนบางกลุ่ม โดยจากสถานการณ์ข้างต้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า การเดินทางท่องเที่ยวในประเทศของคนไทยในช่วงสัปดาห์เทศกาลสงกรานต์ 9 วัน (9-17 เม.ย. 65) น่าจะมีจำนวน 4.6 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 2.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการฟื้นตัวยังไม่ทั่วถึง แหล่งท่องเที่ยวระยะใกล้และเมืองท่องเที่ยวหลักทางทะเลได้รับการตอบรับที่ดี
สำหรับภาพรวมการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์ปี 65 ลดลงเล็กน้อยจาก 4,900 บาท/คน/ทริปในปี 64 เป็น 4,850 บาท/คน/ทริป ซึ่งเป็นผลหลักจากการทำตลาดของผู้ประกอบการและการปรับพฤติกรรมของผู้บริโภค ทำให้ค่าใช้จ่ายที่พักและอาหาร ไม่เร่งตัวขึ้นมากนักแม้ราคาอาหารจะแพงขึ้น ขณะที่ค่าใช้จ่ายการเดินทางก็ไม่เพิ่มขึ้นมากแม้ราคาน้ำมันจะสูงขึ้น เนื่องจากนักท่องเที่ยวเน้นแหล่งท่องเที่ยวระยะใกล้ และใกล้ที่พัก สำหรับค่าใช้จ่ายซื้อสินค้า/ของฝาก/ของที่ระลึกและทำกิจกรรมก็ชะลอลง ตามการปรับลดกิจกรรมสันทนาการเพื่อหลีกเลี่ยงความแออัด โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาด การใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์ปี 65 จะมีมูลค่า 2.23 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเพียง 1.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
ตลาดท่องเที่ยวในช่วงที่เหลือปี 2565 นี้ แม้จะได้รับปัจจัยด้านบวกจากการที่ทางการผ่อนคลายกฎระเบียบการตรวจวัดเชื้อโควิด-19 ก่อนเดินทางเข้าประเทศของชาวต่างชาติ แต่สถานการณ์ในระยะข้างหน้ายังมีความไม่แน่นอนสูง ดังนั้น ผู้ประกอบต้องติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง มีความยืดหยุ่นในการทำตลาดและปรับกลยุทธ์ตามความต้องการนักท่องเที่ยว
Scan QR Code
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น