Display mode (Doesn't show in master page preview)

22 ธันวาคม 2563

Econ Digest

น้ำท่วมใต้ ต้น ธ.ค. 63 กระทบยาวถึงมี.ค. 64 ซ้ำเติมเกษตรกรยางพาราและปาล์มน้ำมัน เสียรายได้กว่า 6,600 ล้านบาท

คะแนนเฉลี่ย
​​           ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินผลกระทบเบื้องต้นต่อรายได้เกษตรกรที่สูญเสียไปของยางพาราและปาล์มน้ำมันจากเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้รวมอยู่ที่ 6,600 ล้านบาท ซึ่งกินระยะเวลาตั้งแต่ธ.ค. 2563 และสร้างผลกระทบต่อเนื่องถึงมี.ค. 2564 

            ทั้งนี้ ความเสียหายที่เกิดขึ้นได้แก่ความเสียหายโดยตรงที่เกิดจากต้นพืชตาย และความเสียหายโดยอ้อมที่เกิดจากผลผลิตลดลง ซึ่งรวมแล้วฉุดผลผลิตยางพาราและปาล์มน้ำมันให้เสียหายรวมราว 0.58 ล้านตัน แบ่งเป็นความเสียหายของผลผลิตยางพาราราว 0.08 ล้านตัน เกษตรสวนยางสูญเสียรายได้ราว 4,075 ล้านบาท และความเสียหายของผลผลิตปาล์มน้ำมันราว 0.5 ล้านตัน เกษตรกรสวนปาล์มสูญเสียรายได้ราว 2,524 ล้านบาท   

             แม้ว่าผลกระทบดังกล่าวอาจมีผลไม่มากนักต่อภาพรวมเศรษฐกิจในระดับประเทศ โดยคิดเป็นเพียง 0.04% ของ GDP แต่ในระดับภูมิภาค เหตุการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบค่อนข้างมากต่อคนในพื้นที่ที่เผชิญความยากลำบากอยู่แล้วจากปัญหารายได้ภาคเกษตร อีกทั้งหากสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้เริ่มคลี่คลาย จะส่งผลต่ออุปทานยางพาราและปาล์มน้ำมันที่จะทยอยกลับมาผลิตได้ตามปกติ ทำให้ราคามีแนวโน้มที่จะลดต่ำลง กอปรกับภาคการส่งออกที่ไม่ดีนักจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังคงมีอยู่ จะยิ่งกดดันราคาให้มีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำได้ในระยะข้างหน้า ดังนั้น จึงนับเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่นโยบายของภาครัฐในโครงการประกันรายได้เกษตรกรระยะที่ 2 จะสามารถเป็นตัวขับเคลื่อนที่ดีในการช่วยประคองรายได้เกษตรกรภาคใต้ไม่ให้ต้องเผชิญความยากลำบากมากนัก










                                                                                                                                             ​      ขอบคุณภาพจาก  Shutterstock.com​



Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest