Display mode (Doesn't show in master page preview)

21 พฤษภาคม 2564

Econ Digest

เงินเฟ้อสูง สวนทางเศรษฐกิจอ่อนแอ กระทบผลตอบแทนที่แท้จริงจากการออมและลงทุน

คะแนนเฉลี่ย


ปัจจุบัน ทั่วโลกกำลังเผชิญความกังวลต่อภาวะเงินเฟ้อที่เร่งขึ้น โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยเดือนเม.ย. 2564 อยู่ที่ 3.41% YoY ขยับขึ้นจาก -0.08% YoY ในเดือนมี.ค. 2564 ทั้งนี้ แม้ว่าสาเหตุหลักจะมาจากฐานเปรียบเทียบที่ต่ำในช่วงเดียวกันปีก่อนที่โดนผลกระทบจากโควิด-19 รอบแรก แต่ก็ยังคงต้องติดตามแนวโน้มราคาน้ำมันและสถานการณ์ค่าเงินบาท ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อของไทยมีโอกาสทรงตัวอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องในช่วงหลายเดือนข้าง​หน้า ทั้งนี้ สภาวะเงินเฟ้อไทยในปัจจุบันเกิดขึ้นจากปัจจัยด้านอุปทาน และเป็นช่วงจังหวะเวลาที่เศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญกับแรงกดดันจากการระบาดของโควิด-19 รอบสาม ซึ่งมีผลโดยตรงต่อแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในระยะที่เหลือของปีนี้และปีหน้า 

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า มีโอกาสน้อยมากที่อัตราดอกเบี้ยจะปรับขึ้น (เพราะไม่ใช่กรณีที่เงินเฟ้อเกิดขึ้นพร้อมกับเศรษฐกิจที่ขยายตัว) โดย กนง. จะให้น้ำหนักกับการดูแลปัญหาเศรษฐกิจมากกว่าปัญหาเงินเฟ้อ และน่าจะยังต้องดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย ด้วยการยืนอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับต่ำเพื่อช่วยสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาพรวม สอดคล้องไปกับมาตรการด้านการคลังที่ยังต้องเน้นการใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อประคองสถานการณ์กำลังซื้อและรายได้เพื่อให้ครัวเรือนมีรายได้ที่เพียงพอต่อการดำรงชีพให้ผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปก่อน  

ส่วนผลกระทบของเงินเฟ้อต่อผลตอบแทนจากการออมและลงทุนนั้น ต้องมองในฝั่งอัตราดอกเบี้ยตลาดการเงินและอัตราดอกเบี้ยธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจะปรับตัวตามอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ดังนั้น เมื่ออัตราดอกเบี้ยนโยบายยังทรงตัวต่ำ สภาวะเศรษฐกิจไทยยังอ่อนแอ และระบบธนาคารพาณิชย์ไทยยังมีสภาพคล่องสูง จึงทำให้อัตราดอกเบี้ยตลาดและอัตราดอกเบี้ยธนาคารพาณิชย์อยู่ในระดับต่ำตามไปด้วย ดังนั้นเมื่อเงินเฟ้อเร่งขึ้นจึงทำให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงของไทย หรืออัตราดอกเบี้ยที่หักด้วยเงินเฟ้อ เริ่มมีค่าติดลบแล้วตั้งแต่เดือนเม.ย. ที่ผ่านมา 


Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest