ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ท่ามกลางภาวะที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯยังมีแนวโน้มอ่อนค่าลง อันเป็นผลจากการชะลอตัวและปัญหาโครงสร้างของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ธปท.คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเข้าไปดูแลเสถียรภาพของค่าเงินบาทอย่างต่อเนื่อง และนำมาสู่การดูดซับสภาพคล่องเงินบาทออกจากระบบด้วยการออกพันธบัตรธปท.ในระยะต่อไป ซึ่งเป็นที่มาของการขออนุมัติวงเงินเพิ่มเติมสำหรับการออกพันธบัตรธปท.อีก 500,000 ล้านบาทในช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ จากยอดคงค้างพันธบัตรธปท.ที่มีแนวโน้มขยับเข้าสู่ระดับ 2.0 ล้านล้านบาท หากธปท.ออกพันธบัตรเต็มจำนวนที่ขออนุมัติ เทียบกับยอดคงค้างที่ 1.2 ล้านล้านบาท ณ สิ้นเดือนกันยายน 2550 แม้ว่าอาจจะสร้างความกังวลให้กับตลาดการเงิน เพราะธปท.จะต้องแบกรับภาระหนี้ในจำนวนที่สูงขึ้นในอนาคต แต่หากธปท.มีการนำเงินตราต่างประเทศที่ได้รับมา ไปบริหารจัดการจนเกิดดอกผลเป็นกำไรสุทธิที่สูงกว่าต้นทุนการออกพันธบัตรธปท.แล้ว ฐานะการดำเนินงานของธปท.ก็คงจะไม่ใช่ประเด็นที่น่าวิตกกังวลจนเกินไปนัก นอกจากนี้ ในกรณีที่ธปท.เข้าดูแลเสถียรภาพค่าเงินบาทแล้วมีประสิทธิผล นอกจากจะช่วยให้เงินบาทชะลอการแข็งค่าและช่วยบรรเทาผลกระทบที่จะมีต่อกลุ่มผู้ส่งออกแล้ว ต้นทุนของการ Sterilization ปริมาณเงินของธปท.อาจจะมีแนวโน้มลดต่ำลงอีกด้วย เนื่องจากนักลงทุนที่มีเป้าหมายเพื่อการเก็งกำไร น่าจะเพิ่มความระมัดระวังและชะลอการนำเข้าเงินทุนลง
สำหรับประเด็นผลกระทบต่อสภาพคล่องและต้นทุนทางการเงินนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมีความเห็นว่า ถึงแม้ว่าการออกพันธบัตรธปท. อาจจะไม่ได้มีผลทำให้สภาพคล่องสุทธิในระบบเปลี่ยนแปลงไปมากนัก เพราะเป็นการดูดซับสภาพคล่องเงินบาทออกจากระบบ จากที่มีเพิ่มขึ้นตามการไหลเข้าสุทธิของเงินลงทุนจากต่างประเทศ แต่การโยกย้ายเปลี่ยนมือกันของเงินบาทที่ธปท.หามาแลกกับเงินตราต่างประเทศ ไปสู่นักลงทุนที่นำเงินตราต่างประเทศเข้ามาแลก ก็น่าที่จะมีผลผลักดันให้ต้นทุนทางการเงินของเงินบาทมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อีกทั้ง เมื่อพิจารณาถึงปริมาณสภาพคล่องในระบบที่อาจมีแนวโน้มลดลงตามการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในปี 2551 การออกพันธบัตรของธปท.ในวงเงินที่ค่อนข้างสูง อาจมีผลกระทบต่อการระดมเงินทุนหรือการจัดสรรทรัพยากรในระบบ (crowding out) รวมทั้งอาจมีผลทำให้เกิดการโยกย้ายเงินออมออกจากเงินฝากธนาคารพาณิชย์ มาเป็นการลงทุนในพันธบัตรธปท.ที่ธนาคารเข้าไปประมูลแล้วนำมาเสนอขาย หรือการลงทุนในกองทุนรวมต่างๆ มากขึ้น ซึ่งทิศทางดังกล่าว อาจนำมาสู่การปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนในตลาดการเงินและอัตราดอกเบี้ยเงินฝากบางประเภทของธนาคารพาณิชย์ในท้ายที่สุด ทั้งๆ ที่ทิศทางอัตราดอกเบี้ยเงินฝากทั่วไปของธนาคารพาณิชย์อาจจะยังไม่ปรับขึ้น เพราะรอการส่งสัญญาณนโยบายอัตราดอกเบี้ยจากทางการ
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น