Display mode (Doesn't show in master page preview)

3 มิถุนายน 2551

ตลาดการเงิน

วัฏจักรขาขึ้นของอัตราดอกเบี้ย ... เริ่มต้นขึ้นแล้ว (มองเศรษฐกิจฉบับที่ 2188)

คะแนนเฉลี่ย

ธนาคารพาณิชย์ไทยขนาดใหญ่ได้ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำและเงินให้กู้ยืมเป็นการทั่วไปตั้งแต่ในวันศุกร์ที่ 30 พฤษภาคม 2551 ที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่า คงจะกระตุ้นให้ธนาคารพาณิชย์ไทยแห่งอื่นๆ ทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในลักษณะเดียวกันตามมาในอนาคตอันใกล้ ขณะเดียวกัน ก็สะท้อนว่าวัฏจักรขาขึ้นของอัตราดอกเบี้ยได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า นอกจากความต้องการในการรักษาฐานลูกค้าเงินฝากแล้ว การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ไทยดังกล่าว ยังน่าจะมีสาเหตุจากการที่สินทรัพย์สภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ไทยปรับตัวลดลง หลังจากที่สินเชื่อขยายตัวได้ดีกว่าเงินฝากในช่วง 4 เดือนแรกของปีที่ผ่านมา ตลอดจน เป็นการเตรียมความพร้อมรับมือกับการครบกำหนดของผลิตภัณฑ์เงินฝากแบบพิเศษและตั๋วแลกเงินที่ได้ทยอยออกมาเป็นจำนวนมากในช่วงก่อนหน้า ขณะที่ การเลือกปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำเป็นการทั่วไปในครั้งนี้ แทนที่จะเป็นการเลือกออกโครงการ หรือผลิตภัณฑ์เงินฝากแบบพิเศษซึ่งเอื้อให้สามารถกำหนดต้นทุนได้ดีกว่านั้น อาจชี้ถึงการคาดการณ์ของธนาคารพาณิชย์เหล่านั้นว่าแนวโน้มสภาพคล่องน่าจะปรับลดลงชัดเจนขึ้นในอนาคต และ/หรือ อัตราดอกเบี้ยในประเทศคงจะใกล้ถึงจุดต่ำสุดเต็มทีแล้ว ดังนั้น จึงน่าจะเป็นจังหวะที่สามารถล็อกเงินฝากต้นทุนต่ำที่สุดได้ในช่วงนี้

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ไทยขนาดใหญ่ในครั้งนี้ มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมไปพร้อมๆ กับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ซึ่งอาจมีผลซ้ำเติมความต้องการสินเชื่อจากภาคเอกชน รวมถึงคุณภาพสินเชื่อ ที่ขณะนี้ได้รับผลกระทบอยู่แล้วจากปัญหาอัตราเงินเฟ้อ และความไม่แน่นอนทางการเมือง ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงคาดว่า ทิศทางอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารพาณิชย์ในระยะถัดไป จึงน่าจะขึ้นอยู่กับการปรับตัวของสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ ที่เป็นตัวแปรสำคัญในการกำหนดว่าลูกค้าสินเชื่อ หรือลูกค้าที่ต้องการกู้เงินจะสามารถรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมได้มากน้อยเพียงใด โดยในกรณีที่เศรษฐกิจยังคงอ่อนแอ และความเชื่อมั่นของภาคเอกชนในระยะต่อไป ยังมีความเปราะบาง ก็อาจส่งผลกระทบต่อปัญหาเอ็นพีแอลและความต้องการสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์ อันอาจทำให้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ไทยกินเวลาไม่นานนัก ก็จะถึงจุดสิ้นสุด รวมทั้งมีการปรับขึ้นด้วยขนาดที่ไม่มากนัก (นั่นคือ วัฏจักรขาขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในรอบนี้ คงจะสั้นกว่าวัฏจักรขาขึ้นของอัตราดอกเบี้ยธนาคารพาณิชย์ครั้งก่อนหน้าในช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2547 – สิงหาคม 2549 ซึ่งกินระยะเวลาถึง 1 ปี 10 เดือน และมีขนาดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำประเภท 1 ปีด้วยขนาด 4%) ยกเว้นว่าจะมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของระบบธนาคารพาณิชย์อย่างรุนแรง จนนำมาสู่การแข่งขันปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอัตราเร่งกว่าที่ควรจะเป็น เพื่อรักษาฐานะสภาพคล่องของตนไว้

ขณะที่ ในกรณีที่ปัจจัยลบทางเศรษฐกิจทั้งปัญหาการเมืองและปัญหาเงินเฟ้อเริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น หรือความพยายามในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาล ผ่านการเร่งการใช้จ่าย และการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของรัฐบาลสัมฤทธิ์ผล ก็คงจะสนับสนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวได้และสภาพคล่องในระบบยังคงทยอยลดลง ซึ่งจะหนุนให้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยยังคงเดินหน้าต่อไปได้นานกว่ากรณีแรก

ดูรายละเอียดฉบับเต็ม


ตลาดการเงิน