ในช่วงครึ่งแรกของปี 2551 ที่ผ่านมานั้น ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงมากถึงร้อยละ 11.0 เมื่อเทียบจากระดับปิด ณ.สิ้นปีก่อน ทั้งนี้ สาเหตุที่ดัชนีปรับลดลงค่อนข้างแรงนั้น มาจากการขายสุทธิอย่างต่อเนื่องของนักลงทุนต่างชาติ โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติขายสุทธิไปแล้วกว่า 46,000 ล้านบาท เนื่องจากความกังวลต่อเสถียรภาพทางการเมืองภายในประเทศ และดัชนีหุ้นไทยมีการปรับตัวสอดคล้องกับตลาดหุ้นในภูมิภาคที่ปรับลดลงจากความวิตกเกี่ยวกับภาวะ Stagflation ในขณะที่ค่าความสัมพันธ์ (Correlation) ระหว่างการปรับตัวของดัชนีหุ้นไทยกับมูลค่าการซื้อขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติยังเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับช่วง 4 ปีก่อน
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า หากสถานการณ์ทางการเมืองคลี่คลายก็มีโอกาสที่นักลงทุนต่างชาติจะกลับเข้ามาลงทุนอีกครั้ง แต่มูลค่าการลงทุนยังคงขึ้นอยู่กับการชั่งน้ำหนักของนักลงทุนต่างชาติต่อปัจจัยแวดล้อมต่างๆ โดยแม้ตลาดหุ้นไทยจะมีปัจจัยบวกจากการที่ดัชนีปรับตัวลดลงมาค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มีราคาถูก (ค่า P/E ต่ำ) ในขณะที่มีอัตราเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) อยู่ในระดับที่น่าพอใจ แต่ราคาหุ้นในหลายตลาดในภูมิภาคปรับลดลงมากกว่า ประกอบกับแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติอาจจะถูกจำกัดด้วยความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของไทยที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง อัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้น รวมทั้งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งทำให้คาดว่านักลงทุนต่างชาติยังคงต้องติดตามความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจเหล่านี้ต่อไป นอกเหนือจากประเด็นทางด้านการเมืองในประเทศ
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น