ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คงจะมีมติให้ตรึงอัตราดอกเบี้ย Fed Funds ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ไว้ที่ร้อยละ 2.00 ในการประชุมรอบที่ 5 ของปีตามวาระปกติ แต่เป็นรอบที่ 6 ของปีหากนับรวมการประชุมฉุกเฉินเมื่อต้นปี ในวันที่ 5 สิงหาคม 2551 นี้ ทั้งนี้ เครื่องชี้เศรษฐกิจสหรัฐฯส่วนใหญ่ที่ปรับตัวดีขึ้นตามปัจจัยหนุนชั่วคราวจากมาตรการคืนภาษีของภาครัฐ ยังคงมีแนวโน้มอยู่ในเกณฑ์ที่อ่อนแอต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องชี้ในภาคอสังหาริมทรัพย์ ตลาดแรงงาน และความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ซึ่งคงจะต้องอาศัยเวลาอีกนานพอควรกว่าที่จะฟื้นตัวกลับสู่ภาวะปกติ ผนวกกับปัญหาในภาคการเงินของสหรัฐฯที่ยังคงมีความเปราะบางตามมูลค่าสินทรัพย์ของสถาบันการเงินต่างๆ ที่ยังมีแนวโน้มเสื่อมถอยลงและจากการขาดแคลนสภาพคล่อง ซึ่งทำให้เฟดคงจะยังจำเป็นต้องดำเนินมาตรการเสริมสภาพคล่องให้กับระบบการเงินต่อเนื่องไปอีกจนกระทั่งปี 2552 น่าที่จะเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เฟดไม่อาจจะรีบร้อนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้ในระยะใกล้นี้ ทั้งๆ ที่เฟดเองก็มีความวิตกกังวลต่อภาวะเงินเฟ้อไม่น้อย ดังสะท้อนได้จากการออกมาแสดงความเป็นห่วงต่อความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อของเจ้าหน้าที่เฟดหลายท่านในช่วงที่ผ่านมา กระนั้นก็ดี ราคาน้ำมันตลาดโลกที่เริ่มชะลอตัว และการทยอยฟื้นตัวของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ รวมถึงตัวเลขอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ไม่ได้เร่งขึ้นมาก อาจทำให้เฟดยังพอจะมีความยืดหยุ่นสำหรับการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับต่ำเช่นเดิมไปอีกระยะหนึ่ง ในขณะที่ปัจจัยที่ต้องจับตาและคาดว่าจะมีอิทธิพลต่อทัศนะและการตัดสินใจนโยบายอัตราดอกเบี้ยของเฟดในระยะข้างหน้า คงจะได้แก่ ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันตลาดโลก การปรับตัวของเงินดอลลาร์สหรัฐฯและเครื่องชี้เศรษฐกิจที่สำคัญ ตลอดจนพัฒนาการของตลาดการเงินสหรัฐฯ
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น