ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจมีมติให้คงอัตราดอกเบี้ย Fed Funds ไว้ที่ร้อยละ 2.00 ตามเดิม ในการประชุมวันที่ 16 กันยายน 2551 อันเป็นผลจากเครื่องชี้เศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯที่ยังคงอ่อนแอ โดยเฉพาะในตลาดแรงงานและตลาดที่อยู่อาศัย กอปรกับปัญหาสถาบันการเงินของสหรัฐฯที่ยังไม่สิ้นสุด ตลอดจนแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่คลายตัวลงตามการร่วงลงของราคาน้ำมันในตลาดโลกและการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งทำให้เฟดยังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องปรับเปลี่ยนนโยบายอัตราดอกเบี้ยในระยะอันใกล้นี้ โดยคงจะต้องจับตาแถลงการณ์หลังการประชุมซึ่งจะบ่งชี้ถึงการให้น้ำหนักความเสี่ยงและมุมมองต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯในระยะข้างหน้าของเฟดอย่างใกล้ชิดต่อไป ทั้งนี้ แม้ว่าปัญหาในภาคการเงินของสหรัฐฯที่ยังมีอยู่ อาจจะส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนย้ายเงินทุนระหว่างประเทศและทำให้ตลาดเงินตลาดทุนทั่วโลกยังมีแนวโน้มปรับตัวผันผวนอย่างต่อเนื่อง แต่ภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯที่คาดว่าอาจจะสามารถฟื้นตัวได้เร็วกว่าเมื่อเทียบกับเศรษฐกิจหลักอื่นๆ (ยูโรโซนและญี่ปุ่น) หลังจากที่ทางการสหรัฐฯได้ดำเนินนโยบายและมาตรการในเชิงที่ผ่อนคลายเพื่อคลี่คลายปัญหาอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า เงินดอลลาร์สหรัฐฯอาจจะยังคงได้รับแรงหนุนให้ปรับแข็งค่าขึ้นในระยะข้างหน้าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ (หากราคาน้ำมันไม่พุ่งขึ้นมากอีก) ซึ่งแนวโน้มดังกล่าว ย่อมอาจมีส่วนผลักดันให้เงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลง ถึงแม้ว่าผลต่างอัตราดอกเบี้ยไทยและสหรัฐฯจะไม่เปลี่ยนแปลงก็ตาม
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น