Display mode (Doesn't show in master page preview)

17 กันยายน 2551

ตลาดการเงิน

เฟดคงอัตราดอกเบี้ยที่ร้อยละ 2.00 และให้ความช่วยเหลือด้านเงินกู้แก่ AIG (กระแสทรรศน์ฉบับที่ 2101)

คะแนนเฉลี่ย

ในการประชุมวันที่ 16 กันยายน 2551 คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ย Fed Funds ไว้ที่ร้อยละ 2.00 ตามเดิม หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง ช่วงเช้าของตลาดเอเชียวันที่ 17 กันยายน 2551 คณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ออกแถลงการณ์ว่า เฟดสาขานิวยอร์กจะให้ความช่วยเหลือด้านเงินกู้แก่บริษัทอเมริกันอินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป (AIG) ด้วยวงเงินสูงสุดถึง 8.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งวงเงินกู้ดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งในแผนการช่วยเหลือบริษัท AIG ให้รอดพ้นจาก ;การล้มละลายอย่างไร้ระเบียบ” (Disorderly Failure)

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มีมุมมองว่า ส่วนสำคัญที่สุดในแถลงการณ์หลังการประชุมของเฟดในรอบนี้ก็คือ เฟดส่งสัญญาณด้วยการเทน้ำหนักไปให้กับปัญหาความตึงตัวในตลาดการเงิน และความเสี่ยงในช่วงขาลงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพิ่มมากขึ้น และให้น้ำหนักกับความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อลดลง ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ท่ามกลางความเสี่ยงจากหลายด้านที่สะท้อนความเปราะบางของเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจทำให้เฟดต้องพิจารณาแนวโน้มของนโยบายการเงินอย่างระมัดระวัง ซึ่งการปรับฐานลงอย่างรุนแรงของราคาน้ำมัน และสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ และแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกนั้น อาจเป็นสถานการณ์ที่เอื้อให้เฟดสามารถยืนอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับปัจจุบันได้อีกระยะหนึ่ง

สำหรับประเด็นการให้ความช่วยเหลือด้านเงินกู้แก่บริษัท AIG ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มีมุมมองว่า ความช่วยเหลือที่เฟดให้แก่บริษัท AIG ในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงจุดยืนของเฟดซึ่งเลือกที่จะใช้มาตรการเฉพาะหน้า และเครื่องมือดูแลด้านสภาพคล่อง ในการแก้ไขความปั่นป่วนและบรรเทาความตึงตัวในภาคการเงิน มากกว่าจะใช้นโยบายการเงิน ในกรณีของบริษัท AIG ซึ่งทำธุรกิจที่มีความหลากหลาย และผลิตภัณฑ์ทางการเงินและการให้บริการของทางบริษัทนั้น มีความซับซ้อนครอบคลุมในวงกว้างตั้งแต่รายย่อยระดับครัวเรือน บริษัท จนถึงสถาบันการเงิน โดยมีความแตกต่างไปจากกรณีของบริษัท Lehman Brothers ที่ผลกระทบอาจตกอยู่กับสถาบันการเงินและนักลงทุนเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเฟดคงได้ประเมินว่า ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นหากบริษัท AIG ล้มละลายลง อาจนำไปสู่ผลกระทบในวงกว้าง ซึ่งยากที่จะควบคุมและเยียวยาแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม แผนการช่วยเหลือบริษัท AIG ซึ่งกระทบสัดส่วนโครงสร้างผู้ถือหุ้น และมีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารของบริษัท ได้สะท้อนให้เห็นว่า ทางการสหรัฐฯ ได้คำนึงถึงข้อวิจารณ์เกี่ยวกับการใช้เงินภาษีของประชาชนไปช่วยสถาบันการเงินที่ประสบปัญหาแล้ว โดยได้ออกแบบการให้ความช่วยเหลือที่มีความเหมาะสมกับขอบเขตของปัญหา ตลอดจนผลกระทบที่อาจมีต่อภาระภาษีของประชาชน

ดูรายละเอียดฉบับเต็ม


ตลาดการเงิน