คงต้องยอมรับว่า สถานะทางด้านเครดิตของตลาดการเงินโลกมีการปรับตัวไปในทิศทางที่แย่ลงอย่างรวดเร็ว และยากที่จะประเมินผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจไทยได้อย่างแน่ชัดในระยะนี้ อย่างไรก็ตาม จากการที่เสถียรภาพทางเศรษฐกิจของไทยยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยเศรษฐกิจไทยยังเติบโตได้ในอัตราที่น่าพอใจ ประกอบกับสถานะของสถาบันการเงินในประเทศก็ยังคงมีความแข็งแกร่ง รวมทั้งสภาพคล่องในระบบการเงินไทยก็ยังคงมีระดับที่ค่อนข้างสูงและไม่ได้อยู่ในภาวะเสี่ยงที่จะประสบกับปัญหาซึ่งอาจกล่าวได้ว่า ณ ขณะนี้ ผลกระทบจากปัญหาการเงินโลกต่อเศรษฐกิจไทยยังคงไม่รุนแรงถึงระดับวิกฤต ทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อาจโน้มเอียงที่จะมีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรระยะ 1 วัน (อัตราดอกเบี้ยนโยบาย) ไว้ที่ร้อยละ 3.75 ตามเดิมในการประชุมวันที่ 8 ตุลาคม 2551 นี้ โดยเฉพาะเมื่อคำนึงถึงระดับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากระยะ 12 เดือนที่แท้จริงที่ยังมีค่าติดลบอยู่ที่ร้อยละ 4.18 ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา กระนั้นก็ดี การประเมินน้ำหนักความเสี่ยงของ กนง. เพื่อพิจารณานโยบายอัตราดอกเบี้ยในระยะข้างหน้า คงมีแนวโน้มที่จะให้น้ำหนักมากขึ้นกับความเสี่ยงด้านการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ในขณะที่ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อผ่อนคลายลง ลง ซึ่งก็สอดคล้องกับคำแถลงของรองผู้ว่าการ ธปท. เมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เห็นว่า ภายใต้สถานการณ์ทางด้านเครดิตในตลาดการเงินโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเช่นปัจจุบัน ความอ่อนไหวและเปราะบางของเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ อาจนำมาสู่ความจำเป็นที่ธนาคารกลางของประเทศเหล่านั้น เช่น ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจจำต้องพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอย่างฉุกเฉินก่อนหน้าการประชุมตามวาระปกติ ซึ่งประเด็นความถดถอยลงของสถานการณ์ดังกล่าว ย่อมเป็นปัจจัยที่ไม่อาจมองข้ามไปได้ และคงจะมีอิทธิพลต่อการให้น้ำหนักความเสี่ยงเพื่อพิจารณานโยบายอัตราดอกเบี้ยของ กนง.ในระยะถัดไปด้วยเช่นกัน
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น