Display mode (Doesn't show in master page preview)

28 ตุลาคม 2551

ตลาดการเงิน

กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF)...นักลงทุนรอจังหวะปีนี้ ท่ามกลางความผันผวนของตลาดหุ้น (มองเศรษฐกิจฉบับที่ 2335)

คะแนนเฉลี่ย

กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) เผชิญกับหลากปัจจัยท้าทายต่างๆส่งผลให้ NAV กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ในเดือนกันยายน 2551 หดตัวลงไป 4.17% จากเดือนก่อนหน้า โดยปัจจัยที่ฉุดให้ NAV หดตัว ได้แก่ การปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย โดยดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในเดือนกันยายนมีอัตราการหดตัวถึง 12.84% (26 ก.ย. 51 เทียบกับ 29 ส.ค. 51) และการชะลอการเข้าลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) เนื่องจากนักลงทุนมองว่าปัญหาวิกฤตการเงินโลกยังไม่ถึงจุดที่แย่ที่สุด โดยนักลงทุนต่างก็รอโอกาสในการเข้าไปซื้อหุ้นในจังหวะที่ราคาลงไปต่ำที่สุด โดยเฉพาะนักลงทุนที่มองว่าดัชนีหุ้นยังมีความเสี่ยงในช่วงขาลงอยู่ โดยล่าสุด ณ วันที่ 27 ต.ค. 51 ดัชนีหุ้นไทยทะลุระดับ 400 จุดลงไปแล้วและร่วงลงมามากกว่า 10% เนื่องจากมีแรงเทขายออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ฯต้องใช้ระบบการพักซื้อขายชั่วคราวในช่วงใกล้ปิดตลาด (เซอร์กิจ เบรกเกอร์) ซึ่งเป็นการใช้เซอร์กิต เบรกเกอร์เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 1 เดือนหลังจากเพิ่งจะประกาศใช้ไปเมื่อวันที่ 10 ต.ค. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าการลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) น่าจะกลับมาได้รับความสนใจได้ในช่วงที่เหลือของปี 2551 เนื่องจากสิทธิประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นจากการขยายเพดานการหักลดหย่อนภาษี โดยการหักลดหย่อนภาษีดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ต.ค.-31 ธ.ค.2551 (รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 3 เดือน) ขณะเดียวกันในช่วงปลายปีเป็นช่วงฤดูกาลที่ผู้ลงทุนจะเข้ามาซื้อกองทุนรวม LTF มากที่สุดในแต่ละปี เพราะเป็นการย่นระยะเวลาการถือครองให้น้อยลงกว่า 5 ปีปฏิทิน ซึ่งก็น่าจะหนุนให้ NAV ของกองทุนดังกล่าวขยับขึ้นมาได้ นอกจากนี้ในช่วง 5 ปีที่ลงทุนในกองทุนรวม LTF นั้น ปัญหาวิกฤตการเงินและความผันผวนของเศรษฐกิจทั่วโลกน่าจะผ่านพ้นและตลาดหุ้นน่าจะสามารถคลี่คลาย ส่งผลให้กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) สามารถสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าในระยะยาวได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตามการที่สิทธิในการลดหย่อนภาษียังคงกำหนดไว้ไม่เกิน 15% ของเงินได้พึงประเมิน อาจเป็นข้อจำกัดสำหรับผู้ที่สนใจจะลงทุนเพิ่มในบางกลุ่มแม้ว่าเพดานการหักลดหย่อนภาษีจะถูกปรับจาก 500,000 บาท/ปี เป็น 700,000 บาท/ปีก็ตาม นอกจากนี้สถานการณ์ที่ยังคงมีความไม่แน่นอนสูงในตลาดหุ้น อาจทำให้นักลงทุนหรือผู้สนใจบางส่วนต้องการรอดูสถานการณ์ตลาดหุ้นไปจนถึงช่วงใกล้สิ้นปีเพื่อประกอบการตัดสินใจ

ดูรายละเอียดฉบับเต็ม


ตลาดการเงิน