Display mode (Doesn't show in master page preview)

2 เมษายน 2553

ตลาดการเงิน

ดัชนีต้นทุนทางการเงินภาคธุรกิจ (FCI) เดือน มี.ค.53 ... ได้แรงส่งจากตลาดหุ้น แต่แนวโน้ม...ยังต้องจับตาอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (มองเศรษฐกิจฉบับที่ 2794)

คะแนนเฉลี่ย

หลังจากที่ดัชนีต้นทุนทางการเงินภาคธุรกิจ (Financial Condition Index: FCI) ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย แสดงการปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้นในช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ 2553 ที่ผ่านมา อันบ่งชี้ถึง ภาพรวมต้นทุนการระดมทุนของภาคธุรกิจเอกชนไทยที่มีความเอื้ออำนวยต่อการประกอบธุรกิจมากขึ้นนั้น ดัชนี FCI ดังกล่าว ก็ยังคงปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องในเดือนมีนาคม 2553 ตามแรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของดัชนีตลาดหุ้นไทย

ทั้งนี้ แม้ว่าการปรับขึ้นของดัชนี FCI ที่มีแรงขับเคลื่อนจากการดีดตัวขึ้นของดัชนีตลาดหุ้นไทยดังกล่าว อาจไม่สามารถสะท้อนนัยเชิงบวกในทางปฏิบัติต่อการระดมทุนในภาคเศรษฐกิจจริงได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะเมื่อปริมาณการระดมทุนใหม่ของธุรกิจเอกชนในตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในขอบเขตที่ค่อนข้างจำกัด ประกอบกับการปรับขึ้นของดัชนีหุ้นไทยในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา มีสาเหตุจากกระแสเงินทุนไหลเข้าระยะสั้นจากต่างประเทศที่มีความผันผวนสูง แต่เมื่อพิจารณาสภาวะการระดมทุนจากอีกมิติหนึ่ง อันได้แก่ การเข้าถึงแหล่งเงินทุน (Availability of Capital) นั้น พบว่า ปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้นเช่นกัน นำโดยการเติบโตของสินเชื่อธนาคารพาณิชย์

เมื่อมองไปในระยะข้างหน้า แม้ดัชนี FCI อาจเริ่มลดแรงบวกลง (อันหมายความถึงต้นทุนทางการเงินของภาคธุรกิจที่คงจะก้าวเข้าสู่จังหวะขาขึ้นที่ชัดเจนขึ้น) โดยเฉพาะเมื่อ ธปท.เริ่มส่งสัญญาณการปรับขั้วนโยบายการเงิน แต่ก็คาดว่าต้นทุนทางการเงินที่มีโอกาสปรับขึ้นดังกล่าว น่าจะมีผลกระทบต่อภาคธุรกิจในขอบเขตที่จำกัด เพราะอัตราดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของธนาคารพาณิชย์น่าจะยังไม่ถูกปรับขึ้นตามการปรับทิศทางของอัตราดอกเบี้ยนโยบายในทันที นอกจากนี้ ทิศทางเศรษฐกิจที่น่าจะปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น รวมถึงการแข่งขันปล่อยสินเชื่อระหว่างธนาคารพาณิชย์ในระดับสูง คาดว่าจะช่วยให้ภาคธุรกิจสามารถเข้าถึงสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ได้มากขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้อีกด้วย ขณะที่ ด้านรายรับของธุรกิจนั้น ก็อาจได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเช่นกัน ซึ่งคงจะช่วยให้ธุรกิจสามารถต้านทานต้นทุนทางการเงินที่มีแนวโน้มขยับขึ้นได้ แต่จะมากน้อยเพียงใดนั้น ก็ยังคงขึ้นกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมือง ที่เริ่มมีน้ำหนักและมีผลกระทบต่อหลายธุรกิจบ้างแล้วในขณะนี้

ดูรายละเอียดฉบับเต็ม


ตลาดการเงิน