Display mode (Doesn't show in master page preview)

21 เมษายน 2553

ตลาดการเงิน

กนง.เทน้ำหนักให้ความเสี่ยงทางการเมือง...คงดอกเบี้ยที่ 1.25% (มองเศรษฐกิจฉบับที่ 2807)

คะแนนเฉลี่ย

ในช่วงบ่ายวันที่ 21 เมษายน 2553 คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย (กนง.) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยธุรกรรมซื้อคืนพันธบัตรระยะ 1 วัน (อัตราดอกเบี้ยนโยบาย) ไว้ที่ 1.25% ตามเดิม และเป็นไปตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ อย่างไรก็ดี กนง.ได้ระบุถึงความเสี่ยงจากสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศที่จะมีผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจในระยะต่อไป

จากการที่กนง. ได้ตัดถ้อยแถลงในส่วนที่ระบุถึงความจำเป็นในการปรับจุดยืนนโยบายการเงินของไทยให้เป็นระดับที่ ;เป็นปกติ” (จากระดับที่มีความผ่อนคลายเป็นพิเศษ) ออกไปจากแถลงการณ์หลังการประชุมในรอบนี้ ทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า กนง.น่าที่จะยังคงอยู่ในช่วงที่รอการประเมินผลกระทบจากปัจจัยการเมืองและปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ อาทิ ความเชื่อมั่นของนักลงทุน ความมั่นคงของเส้นทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และการเคลื่อนย้ายเงินทุนให้มีความแน่ชัด ก่อนที่จะกลับมาพร้อมส่งสัญญาณปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นสู่ภาวะปกติอีกครั้ง ซึ่งก็จะสอดรับกับแนวโน้มเงินเฟ้อที่อาจเร่งตัวสูงขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงครึ่งหลังของปี 2553

ทั้งนี้ แม้ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของกนง.ในเดือนมิถุนายน 2553 ยังคงมีความเป็นไปได้ แต่โอกาสของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้นอาจจะต้องขึ้นอยู่กับเงื่อนไขทางการเมืองซึ่งยังคงอยู่ในช่วงที่ยากจะหาข้อสรุป ณ เวลานี้ ประกอบกับยังคงไม่สามารถประเมินได้ว่า เศรษฐกิจไทยที่ถูกกระทบจากปัจจัยทางการเมืองในช่วงไตรมาสที่ 2/2553 (โดยคาดว่า จีดีพีในไตรมาสที่ 2 อาจจะหดตัวจากไตรมาสแรกประมาณร้อยละ 2.0) จะสามารถกลับเข้าสู่เส้นทางของการฟื้นตัวได้เร็วที่สุดภายในช่วงเวลา 1-2 เดือนข้างหน้าหรือไม่ ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ความเสี่ยงทางการเมืองที่อาจจะยืดเยื้อ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้วัฎจักรขาขึ้นของอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยอาจถูกเลื่อนออกไป และทำให้เป็นไปได้ว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของไทยในรอบนี้ คงจะตามหลังธนาคารกลางหลายประเทศในภูมิภาคเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นธนาคารกลางออสเตรเลีย ธนาคารกลางอินเดีย ธนาคารกลางมาเลเซีย หรือแม้กระทั่งธนาคารกลางเกาหลีใต้ และธนาคารกลางจีน

ดูรายละเอียดฉบับเต็ม


ตลาดการเงิน