ในช่วงบ่ายวันที่ 12 มกราคม 2554 คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย (กนง.) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยธุรกรรมซื้อคืนพันธบัตรระยะ 1 วัน (อัตราดอกเบี้ยนโยบาย) ร้อยละ 0.25 สู่ระดับร้อยละ 2.25 ตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ พร้อมกับระบุว่า สาเหตุของการคุมเข้มนโยบายการเงินในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมแรงกดดันเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในปีนี้ และเพื่อเป็นการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายเข้าสู่ภาวะปกติ
ทั้งนี้ จากประมาณการกรณีพื้นฐานของศูนย์วิจัยกสิกรไทยสะท้อนภาพแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อในระยะข้างหน้าว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอาจขยับไล่ขึ้นใกล้ร้อยละ 3.0 ในช่วงครึ่งหลังของปี ซึ่งเป็นกรอบบนของเป้าหมายเงินเฟ้อที่ร้อยละ 0.5-3.0 ของธปท. ดังนั้น แรงกดดันเงินเฟ้อที่จะโน้มสูงขึ้นดังกล่าว ย่อมทำให้ธปท.ยังคงมีความจำเป็นต้องดำเนินนโยบายการเงินในเชิงคุมเข้มด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับสมดุลของจุดยืนนโยบายการเงิน และเพื่อดูแลเสถียรภาพทางด้านราคาซึ่งเป็นภารกิจหลัก โดยเครือธนาคารกสิกรไทยคาดการณ์ว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายอาจปรับขึ้นสู่ร้อยละ 2.75 ภายในกลางปี 2554 ซึ่งสำหรับนัยต่อผู้ประกอบการไทยนั้น คงจะต้องมุ่งเน้นไปที่การบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะนอกจากภาคธุรกิจจะต้องเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่ต้นทุนการผลิตหลายด้าน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาวัตถุดิบ ค่าจ้างแรงงาน ราคาน้ำมัน/ค่าขนส่ง) โน้มสูงขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกันแล้ว อาจยังต้องเผชิญกับต้นทุนทางการเงินที่น่าจะยังคงอยู่ในจังหวะที่เป็นขาขึ้นตามวัฏจักรอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธปท.ที่ยังไม่มีสัญญาณว่าจะสิ้นสุดลงในช่วงเวลานี้
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น