กนง.ลดดอกเบี้ย...แนวโน้มยังคงขึ้นกับภาวะเศรษฐกิจในและต่างประเทศ (มองเศรษฐกิจฉบับที่ 3366)

ในช่วงบ่ายวันที่ 17 ตุลาคม 2555 ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย มีมติอย่างไม่เป็นเอกฉันท์ 5 ต่อ 2 เสียงให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 0.25 จากร้อยละ 3.00 เป็นร้อยละ 2.75 โดยให้มีผลทันที ทั้งนี้ กรรมการฯ ส่วนใหญ่มีความเห็นว่า ในภาวะที่ความเสี่ยงดานเงินเฟออยู่ในระดับต่ำ ขณะที่เศรษฐกิจโลกยังออนแอและมีความเสี่ยงสูง นโยบายการเงินควรผ่อนคลายเพิ่มเติม เพื่อรองรับความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกและรักษาแรงส่งของอุปสงค์ในประเทศที่อาจจะอ่อนแรงลงในระยะต่อไป

ทั้งนี้ มติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของกนง.ในการประชุมรอบนี้ สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดการเงินและนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ที่มีมุมมองก่อนการประชุมว่า กนง.น่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 3.00 ในการประชุมรอบนี้ จากผลการประชุมกนง. ข้างต้น ทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธปท.ในระยะข้างหน้านั้น ยังขึ้นอยู่กับสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศที่ผูกโยงเข้าด้วยกัน โดยปัจจัยต่างประเทศนั้น ประกอบไปด้วย 3 ตัวแปรสำคัญ คือ ความเสี่ยง Fiscal Cliff ของสหรัฐฯ สถานการณ์วิกฤตหนี้ยูโรโซน และช่วงเวลาการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ขณะที่ ตัวแปรในประเทศ ก็คือ การประคองโมเมนตัมของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศ

จากสัญญาณของกนง. ที่ระบุว่า ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของไทยยังไม่ใช่ขาลงนั้น สอดคล้องกับมุมมองของศูนย์วิจัยกสิกรไทยที่มองว่า สถานการณ์เศรษฐกิจโลกน่าจะเข้าสู่ภาวะทรงตัวได้ในช่วงปีข้างหน้า ในขณะเดียวกันภาวะเศรษฐกิจในประเทศก็น่าจะได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายภายในประเทศ โดยเฉพาะการลงทุนของภาครัฐ ซึ่งหากสถานการณ์ทั้งในและต่างประเทศ เป็นไปตามสมมติฐานการคาดการณ์ดังกล่าว ก็น่าจะทำให้ความจำเป็นที่จะต้องผ่อนคลายนโยบายการเงินอีกนั้น มีน้อยลง