Display mode (Doesn't show in master page preview)

1 เมษายน 2556

ตลาดการเงิน

ประชุม กนง.วันที่ 3 เม.ย. คาด กนง. มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (มองเศรษฐกิจฉบับที่ 3420)

คะแนนเฉลี่ย

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ในการประชุมรอบที่สามของปี 2556 ในวันที่ 3 เมษายนนี้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) น่าจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.75% ซึ่งถือเป็นระดับที่สามารถสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจได้ดี ขณะที่การลดดอกเบี้ยอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อความไม่สมดุลของเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจในระยะยาว

§ ระดับอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันยังสามารถสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจได้ในเกณฑ์ดีขณะที่อัตราดอกเบี้ย ณ ระดับปัจจุบันยังคงสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยหากพิจารณาถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี จะเห็นได้ว่าอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน สะท้อนถึงต้นทุนทางการเงินของผู้ประกอบการไทยที่อยู่ในระดับที่เหมาะสมและสามารถแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ได้ จึงไม่มีความจำเป็นที่ทางการจะต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

  • การปรับลดอัตราดอกเบี้ย แม้ว่าอาจจะช่วยบรรเทาแรงกดดันของการแข็งค่าของเงินบาทบางส่วน แต่อาจเป็นปัจจัยเร่งความร้อนแรงของระบบเศรษฐกิจ และสร้างความเสี่ยงต่อเสถียรภาพของระบบการเงินในระยะยาว โดยการลดอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำเป็นระยะเวลานานนั้น อาจมีผลกระทบต่อเสถียรภาพของระบบการเงินและเศรษฐกิจในระยะยาว โดยอาจส่งผลให้ผู้บริโภคมีแนวโน้มในการกู้ยืมเงินในอนาคตมาบริโภคในปัจจุบันมากขึ้น จากต้นทุนการกู้ยืมที่ปรับตัวลดลง ท่ามกลางสถานการณ์หนี้ครัวเรือนที่มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อันอาจส่งผลต่อภาระหนี้และความสามารถในการชำระหนี้ของครัวเรือนต่อไป
  • มองไปข้างหน้า ความเสี่ยงของเศรษฐกิจไทยอาจขึ้นอยู่กับทิศทางของค่าเงินบาทผ่านผลกระทบต่อการส่งออก แต่การลดอัตราดอกเบี้ยน่าจะมีผลต่อค่าเงินเพียงระยะสั้น ขณะที่ทางการยังมีเครื่องมือในการบริหารจัดการไม่ให้ค่าเงินบาทส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมอย่างรุนแรง เช่น การลดภาษีการนำเข้าเครื่องจักร การส่งเสริมการลงทุนของเอกชนในต่างประเทศ อันน่าจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถแข่งขันกับประเทศคู่ค้าและสามารถอยู่รอดได้

ดูรายละเอียดฉบับเต็ม


ตลาดการเงิน