ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ในการประชุมรอบที่สามของปี 2556 ในวันที่ 3 เมษายนนี้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) น่าจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.75% ซึ่งถือเป็นระดับที่สามารถสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจได้ดี ขณะที่การลดดอกเบี้ยอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อความไม่สมดุลของเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจในระยะยาว
§ ระดับอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันยังสามารถสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจได้ในเกณฑ์ดีขณะที่อัตราดอกเบี้ย ณ ระดับปัจจุบันยังคงสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยหากพิจารณาถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี จะเห็นได้ว่าอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน สะท้อนถึงต้นทุนทางการเงินของผู้ประกอบการไทยที่อยู่ในระดับที่เหมาะสมและสามารถแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ได้ จึงไม่มีความจำเป็นที่ทางการจะต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
-
การปรับลดอัตราดอกเบี้ย แม้ว่าอาจจะช่วยบรรเทาแรงกดดันของการแข็งค่าของเงินบาทบางส่วน แต่อาจเป็นปัจจัยเร่งความร้อนแรงของระบบเศรษฐกิจ และสร้างความเสี่ยงต่อเสถียรภาพของระบบการเงินในระยะยาว โดยการลดอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำเป็นระยะเวลานานนั้น อาจมีผลกระทบต่อเสถียรภาพของระบบการเงินและเศรษฐกิจในระยะยาว โดยอาจส่งผลให้ผู้บริโภคมีแนวโน้มในการกู้ยืมเงินในอนาคตมาบริโภคในปัจจุบันมากขึ้น จากต้นทุนการกู้ยืมที่ปรับตัวลดลง ท่ามกลางสถานการณ์หนี้ครัวเรือนที่มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อันอาจส่งผลต่อภาระหนี้และความสามารถในการชำระหนี้ของครัวเรือนต่อไป
-
มองไปข้างหน้า ความเสี่ยงของเศรษฐกิจไทยอาจขึ้นอยู่กับทิศทางของค่าเงินบาทผ่านผลกระทบต่อการส่งออก แต่การลดอัตราดอกเบี้ยน่าจะมีผลต่อค่าเงินเพียงระยะสั้น ขณะที่ทางการยังมีเครื่องมือในการบริหารจัดการไม่ให้ค่าเงินบาทส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมอย่างรุนแรง เช่น การลดภาษีการนำเข้าเครื่องจักร การส่งเสริมการลงทุนของเอกชนในต่างประเทศ อันน่าจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถแข่งขันกับประเทศคู่ค้าและสามารถอยู่รอดได้
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น