คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เผชิญความท้าทายในการตัดสินใจเชิงนโยบายมากขึ้น โดยท่ามกลางหลากหลายปัจจัยกดดันต่อทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยนั้น คงต้องยอมรับว่า ปัจจัยการเมืองในประเทศ กลายเป็นประเด็นเฉพาะหน้าที่ถูกจับตาอย่างใกล้ชิดในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า โอกาสที่ กนง.อาจเลือกคงอัตราดอกเบี้ยน่าจะมีน้ำหนักมากกว่าโอกาสที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เนื่องจาก กนง.ยังสามารถรอข้อมูลเศรษฐกิจจริง รวมถึงพัฒนาการของเหตุการณ์ทางการเมืองที่ชัดเจนขึ้นได้อีกระยะ ซึ่งข้อมูลเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในช่วงการประชุมครั้งที่ผ่านมาถึงปัจจุบันยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ในช่วงปลายเดือน ม.ค. ถึง เดือน ก.พ. 2557 ก็จะมีการเปิดเผยข้อมูลทางเศรษฐกิจที่สำคัญ อาทิ ตัวเลขการส่งออก และการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4/2556 อันน่าจะเป็นข้อมูลที่ช่วยให้ กนง. สามารถประเมินภาพพัฒนาการเศรษฐกิจได้ชัดเจนขึ้นก่อนที่จะมีการปรับท่าทีเชิงนโยบาย รวมทั้ง การที่ กนง. ได้มีมติในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมในครั้งก่อน ก็น่าที่จะสามารถรองรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจไทยได้ในระดับหนึ่ง
ทั้งนี้ ถ้าปรากฏว่า ตัวเลขเศรษฐกิจ หรือสถานการณ์ทางการเมืองถดถอยลง กนง. ก็สามารถตัดสินใจผ่อนคลายนโยบายการเงินด้วยการลดอัตราดอกเบี้ย รวมถึงการออกมาตรการเสริมอื่นๆ ในการประชุมรอบต่อไปในเดือน มี.ค. 2557 หรือสามารถที่จะจัดการประชุมรอบพิเศษ หากเกิดเหตุการณ์ที่มีความเสี่ยงที่ร้ายแรงและเป็นปัญหาเร่งด่วน
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น