สภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นในช่วงปลายไตรมาส 2/2557 หลังจากที่สถานการณ์ทางการเมืองมีเสถียรภาพมากขึ้น บวกกับมีการทยอยออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงมาตรการช่วยเหลือจากทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง ก็ส่งผลให้คาดว่าในไตรมาส 2/2557 นี้ ธนาคารพาณิชย์จะมีรายได้จากธุรกิจหลักปรับตัวดีขึ้น QoQ โดยทั้งรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิมีโอกาสที่จะมีอัตราการเติบโต QoQ สูงขึ้นจากไตรมาส 1/2557 นอกจากนี้ ธนาคารบางแห่งยังอาจมีการบันทึกรายการพิเศษ ส่งผลให้รายได้ที่มิใช่ธุรกิจหลักเติบโตขึ้น QoQ ด้วย อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาที่ภาพรวมของกำไรสุทธิในไตรมาส 2/2557 ก็อาจมีอัตราการเติบโต QoQ ที่ชะลอลง เนื่องจากในไตรมาส 1/2557 กำไรสุทธิของธนาคารพาณิชย์เติบโตได้ดี QoQ จากผลของการปรับลดการตั้งสำรองหนี้สูญลง
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาอัตราการเติบโตของรายได้หลักของธนาคารพาณิชย์จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) จะพบว่า จากผลของฐานที่สูงในปีก่อน ก็อาจทำให้เห็นอัตราการเติบโตของทั้งรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิในไตรมาส 2/2557 ชะลอลงจากไตรมาส 1/2557 แม้ว่าอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิ YoY มีโอกาสเติบโตดีขึ้นเนื่องจากธนาคารพาณิชย์ตั้งสำรองหนี้สูญลดลงค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับในไตรมาส 2/2556 ซึ่งหลายธนาคารมีการตั้งสำรองพิเศษเพื่อรองรับภาวะเศรษฐกิจขาลง (Countercyclical provisioning) ในช่วงเวลาดังกล่าวก็ตาม
ทั้งนี้ เมื่อมองไปในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับสภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มจะกลับมาดีขึ้น และเตรียมรับมือกับภาวะการแข่งขันด้านราคาที่อาจกลับมารุนแรง รวมถึงภาวะที่สภาพคล่องในระบบอาจกลับมาตึงตัว ธนาคารพาณิชย์คงต้องปรับกลยุทธ์เน้นการสร้างรายได้กับกลุ่มลูกค้าที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นตามเศรษฐกิจให้มากขึ้น เช่น เน้นการเติบโตสินเชื่อและรายได้ค่าธรรมเนียมจากกลุ่มลูกค้ารายย่อย ซึ่งน่าจะได้รับอานิสงส์จากการใช้จ่ายภาคเอกชนที่มีแนวโน้มดีขึ้น เป็นต้น ทั้งนี้ คงต้องระมัดระวังการแข่งขันด้านราคา ควบคู่กับการติดตามสถานการณ์สภาพคล่อง และคุณภาพหนี้อย่างใกล้ชิดด้วย
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น