ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) น่าจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.00% ต่อเนื่องในการประชุมรอบแรกของปี 2558 ในวันที่ 28 มกราคม 2558 นี้ เพื่อรอดูพัฒนาการของการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทย หลังจากที่โมเมนตัมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเริ่มปรากฏให้เห็นในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ขณะที่ประเด็นด้านเสถียรภาพนั้น แม้ว่า แรงกดดันเงินเฟ้อในประเทศจะคลายตัวลงตามราคาน้ำมันในตลาดโลก แต่น่าจะยังคงเคลื่อนไหวในกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อของทางการ จึงยังไม่มีความจำเป็นในการปรับเปลี่ยนทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินในขณะนี้ ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าการเคลื่อนไหวของอัตราเงินเฟ้อในปี 2558 น่าจะยังคงอยู่ในกรอบเป้าหมายอยู่ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าค่าเฉลี่ยเงินเฟ้อทั่วไปปี 2558 คงมีช่วงการเคลื่อนไหวที่ 1.0-2.2% เทียบกับกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อทั่วไปใหม่ของ ธปท. ที่ 1.0-4.0% (หรือ 2.5% +/- 1.5%)
มองไปข้างหน้า คาดว่า ธปท.ยังคงต้องจับตาความต่อเนื่องในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย รวมทั้ง ปัจจัยความเสี่ยงจากภายนอกประเทศที่อาจมีนัยสำคัญต่อการดำเนินนโยบายการเงินในอนาคต โดย กนง. คงจับตาการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศอย่างใกล้ชิด ในขณะที่ประเด็นด้านต่างประเทศซึ่งอาจกระทบต่อกระแสการเคลื่อนย้ายเงินทุนในตลาดการเงินโลกเป็นอีกปัจจัยที่ต้องติดตามประกอบการตัดสินใจดำเนินนโยบายการเงินในระยะข้างหน้า ระยะสั้น – กลาง: เหตุการณ์สำคัญในต่างประเทศซึ่งจะนำไปสู่ความผันผวนในตลาดการเงินโลก การดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางในต่างประเทศที่จะเริ่มมีความแตกต่างกันมากขึ้น รวมทั้ง วิกฤติการณ์ในรัสเซีย ในขณะที่ ระยะกลาง – ยาว ตลาดคงมุ่งความสนใจไปที่การปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินของเฟด อย่างไรก็ดี หากเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวขึ้นช้ากว่าที่คาดไว้ และเหตุการณ์ดังกล่าวในต่างประเทศเริ่มส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินในประเทศเพิ่มขึ้น ก็ยังมีโอกาสที่ กนง. อาจจะพิจารณาทางเลือกในการใช้นโยบายการเงินเพื่อดูแลเศรษฐกิจเพิ่มเติมในอนาคต
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น