ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) น่าจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.75% ต่อเนื่อง หลังจากที่ได้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ในการประชุม กนง. ครั้งก่อนหน้า เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2558 ท่ามกลางความหวังว่าแรงส่งจากภาคการท่องเที่ยวและการผลักดันการใช้จ่ายภาครัฐจะช่วยฟื้นโมเมนตัมทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ สถานการณ์หนี้ภาคครัวเรือนที่ทรงตัวในระดับสูง สวนทางกับการออมในระดับครัวเรือนที่ลดลง อาจส่งผลให้ กนง. มีความระมัดระวังในการพิจารณาถึงการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม มองไปในระยะ 3-6 เดือนข้างหน้า กนง. อาจเผชิญแรงกดดันให้ต้องทบทวนจุดยืนเชิงนโยบายมากขึ้น โดยปัจจัยแรกที่ต้องจับตาคงได้แก่ ประสิทธิผลจากการขับเคลื่อนการใช้จ่ายภาครัฐ ว่าจะสามารถขับเคลื่อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภาพรวมได้ดีเพียงใด ปัจจัยที่ 2 ประเด็นเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยน ที่อาจกระทบการฟื้นตัวของการส่งออก หากค่าเงินบางมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น เทียบกับประเทศคู่แข่งทางการค้า และปัจจัยที่ 3 การเปลี่ยนแปลงการดำเนินนโยบายของเฟด ที่อาจส่งผลต่อช่องว่างในการดำเนินนโยบายการเงินเพื่อดูแลการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น