หลังการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างเหนือความคาดหมายเป็นครั้งที่ 2 ของคณะกรรมการนโยบายการเงินได้เพียง 1 วัน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็ได้ประกาศแนวทางผ่อนคลายเพิ่มเติมภายใต้แผนแม่บทเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศ พร้อมกับๆ ผ่อนคลายหลักเกณฑ์อื่นๆ ที่เกี่ยวกับการทำธุรกรรมของผู้มีถิ่นที่อยู่นอกประเทศ และการประกอบธุรกิจของศูนย์บริหารเงิน โดยธปท. ระบุว่า การผ่อนคลายดังกล่าว จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการทำธุรกรรม และกระจายความเสี่ยงการลงทุนของบุคคลในประเทศและผู้มีถิ่นที่อยู่นอกประเทศ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า การผ่อนคลายเกณฑ์การเคลื่อนย้ายเงินทุนในรอบนี้ นับได้ว่าเป็นชุดเครื่องมือ/มาตรการที่ค่อนข้างเป็นมิตรกับตลาด เพราะน่าจะมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดทาง/จูงใจให้มีแรงซื้อเงินดอลลาร์ฯ จากในประเทศ พร้อมๆ กับชะลอแรงขายเงินดอลลาร์ฯ ของผู้มีถิ่นที่อยู่นอกประเทศ มากกว่าที่จะผลักดันให้เงินบาทกลับไปอ่อนค่าผ่านผลของการกลับทิศ (ไหลออก) อย่างฉับพลันทันทีของกระแสเงินทุนต่างชาติ ทั้งนี้ มาตรการผ่อนคลายทางการเงิน ทั้งการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และการคลายเกณฑ์เคลื่อนย้ายเงินทุนเพิ่มเติมในครั้งนี้ อาจเป็นสัญญาณที่สะท้อนว่า ธปท. ได้ปรับเปลี่ยนจุดยืนเชิงนโยบายการเงินมาสนับสนุนเศรษฐกิจมากขึ้นกว่าในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า หากในช่วงหลังจากนี้ สถานการณ์ของภาคการส่งออก และกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาพรวม ยังมีแนวโน้มการฟื้นตัวที่อ่อนแอและล่าช้า ก็อาจทำให้ธปท. ยังคงมีความจำเป็นต้องดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเพิ่มเติมอีก อย่างไรก็ดี หากเครื่องชี้เศรษฐกิจไทยทยอยปรับตัวดีขึ้น ความจำเป็นที่ธปท. จะต้องปรับลดดอกเบี้ยลงอีกก็คงจะหมดไป
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น