Display mode (Doesn't show in master page preview)

16 สิงหาคม 2548

ตลาดการเงิน

การแข่งขันขึ้นดอกเบี้ยเงินฝาก : แนวโน้มและผลกระทบ

คะแนนเฉลี่ย

ในช่วงที่ผ่านมา อัตราดอกเบี้ยในระบบการเงินไทยได้ทยอยปรับเพิ่มขึ้นตามลำดับ โดยเริ่มต้นจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธปท.ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2547 ตามมาด้วยการทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำระยะยาวของธนาคารพาณิชย์บางแห่งในช่วงปลายปีเดียวกัน ก่อนที่กระแสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระหว่างธนาคารพาณิชย์ไทย โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก จะเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2548 เป็นต้นมา และล่าสุด ธนาคารพาณิชย์ไทยขนาดใหญ่ได้เริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากทุกประเภทสำหรับลูกค้านิติบุคคล รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำประเภท 6 เดือนสำหรับลูกค้าทั่วไปแล้ว

ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มีความเห็นว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก โดยเฉพาะจากธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ในช่วงที่ผ่านมา น่าจะเป็นผลจากการไหลออกของเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ดังกล่าวไปยังธนาคารพาณิชย์ขนาดกลาง-เล็ก และสาขาของธนาคารต่างชาติที่เสนออัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่สูงกว่าโดยเปรียบเทียบ ขณะที่คาดว่ามีเงินฝากอีกส่วนหนึ่งไหลไปสู่ตลาดตราสารหนี้ ผ่านความต้องการลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ที่เพิ่มขึ้น หลังจากที่อัตราผลตอบแทนในตลาดตราสารหนี้ได้เพิ่มขึ้นจนมีอัตราดีกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ประเภทอายุเดียวกันค่อนข้างมาก นอกจากนี้ แรงกดดันจากทางการไทย ด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในตลาดซื้อคืนพันธบัตรระยะ 14 วันและการดูดซับสภาพคล่องจากระบบสถาบันการเงินอย่างต่อเนื่อง รวมทั้ง การส่งสัญญาณจากธปท.ด้วยการแสดงความกังวลต่อประเด็นด้านแรงกดดันเงินเฟ้อ การรักษาอัตราดอกเบี้ยในประเทศให้ทรงตัวอยู่ในระดับสูงเพื่อดึงเงินทุนไหลเข้าชดเชยกับการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด และการทำให้อัตราดอกเบี้ยแท้จริงเป็นบวก เพื่อเพิ่มระดับการออมในประเทศและเพิ่มเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในระยะปานกลางถึงยาวนั้น ยังมีผลต่อการคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในประเทศในลักษณะที่สูง (Aggressive) กว่าเดิมด้วย

สำหรับช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดว่ากระแสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์อาจดำเนินต่อไป เนื่องจากปัจจัยต่างๆ ข้างต้นจะยังคงมีผลกดดันต่อการตั้งราคาสำหรับเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ โดยในกรณีที่ธนาคารพาณิชย์ไทยสามารถขยายสินเชื่อได้ตามเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้เดิม (คิดเป็นเม็ดเงินสินเชื่อปล่อยใหม่สุทธิเพิ่มเติมในช่วงครึ่งหลังของปีนี้อีกประมาณ 1.5-1.7 แสนล้านบาท เทียบกับที่ทำได้ประมาณ 1.5 แสนล้านบาทในช่วงครึ่งปีแรก) มีความเป็นไปได้ที่จะเห็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากระยะสั้น 0.25% ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งอาจจะตามมาด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดอกเบี้ยเงินกู้ในขนาดเท่ากัน

อย่างไรก็ตาม คาดว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากดังกล่าวของธนาคารพาณิชย์ไทย อาจไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรมากนักในช่วงครึ่งหลังของปี ตราบใดธนาคารพาณิชย์ยังสามารถขยายสินเชื่อได้ และมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ขณะที่ ทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นไม่ได้ส่งผลให้คุณภาพของเอ็นพีแอลแย่ลง

ดูรายละเอียดฉบับเต็ม


ตลาดการเงิน