Display mode (Doesn't show in master page preview)

6 กันยายน 2548

ตลาดการเงิน

ธปท.คงจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็น 3.00% ในการประชุมวันที่ 7 กันยายนนี้

คะแนนเฉลี่ย

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เห็นว่า เพื่อเป้าหมายการรักษาเสถียรภาพของระดับราคาและอัตราเงินเฟ้อ รวมทั้งเพื่อผลักดันระดับอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงให้เพิ่มขึ้น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คงจะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตรระยะ 14 วัน ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ในการประชุมวันที่ 7 กันยายน 2548 นี้ โดยคาดว่า ความเป็นไปได้ของการปรับขึ้นจะเอนเอียงไปที่ขนาดการปรับขึ้น 0.25% มากกว่าจะเป็น 0.50% ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายขยับขึ้นจาก 2.75% เป็น 3.00% เพราะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยด้วยขนาดที่รุนแรงนอกจากจะไม่ช่วยลดความเสี่ยงทางด้านอัตราเงินเฟ้อที่เกิดจากปัจจัยทางด้านอุปทานหรือราคาน้ำมันแล้ว ยังอาจส่งผลกระทบในทางลบต่อความเชื่อมั่นของภาคเอกชนภายในประเทศให้ยิ่งถดถอยลงไปมากกว่าเดิม นอกจากนี้ ภายใต้ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ (โดยเฉพาะจากความเสี่ยงต่อการชะลอลงของเศรษฐกิจสหรัฐฯที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย) ที่อาจมีผลต่อแนวโน้มการขยายสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ รวมทั้งแนวคิดในการนำเครื่องมือการดำเนินนโยบายการเงินเพิ่มเติมมาใช้เพื่อดูดซับสภาพคล่องออกจากระบบการเงินที่ยังรอรายละเอียดความชัดเจน ทำให้อาจต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งสำหรับที่จะทำให้สภาพคล่องทยอยลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ฉะนั้น การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยด้วยอัตราที่รวดเร็ว อาจจะไม่ตามมาด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์โดยทันที นั่นหมายความว่า การส่งผ่านนโยบายไปสู่ภาคเศรษฐกิจในวงกว้างไม่อาจเกิดขึ้นได้เร็วตามที่คาดหวัง ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงเห็นว่า การส่งสัญญาณนโยบายอัตราดอกเบี้ยที่เข้มงวดมากขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป หรือการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมรอบนี้น่าจะเป็นทางเลือกที่มีความเหมาะสมมากกว่า ทั้งนี้ หากธปท.ตัดสินใจปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นเป็น 3.00% ในการประชุมรอบวันที่ 7 กันยายนนี้จริงตามที่คาด ก็น่าจะเป็นผลดีสำหรับการรักษาค่าผลต่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างสหรัฐฯและไทยให้คงไว้ที่ระดับเดิม (เพราะตลาดคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯน่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% มาเป็น 3.75% ในการประชุมวันที่ 20 กันยายน ด้วยความเป็นไปได้ประมาณ 82%) และเป็นผลบวกต่อทิศทางค่าเงินบาท นอกเหนือไปจากการส่งสัญญาณถึงวัฏจักรขาขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในประเทศที่ยังมีแนวโน้มดำเนินไปอย่างต่อเนื่องแล้ว

เหตุผลสนับสนุนการดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยของธปท.ในการประชุมวันที่ 7 กันยายนนี้
เหตุผลสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25%
เหตุผลสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50%
ง การขยายตัวของง เศรษฐกิจไทยอาจเผชิญง ความเสี่ยงง โดยเฉพาะในไตรมาส 4/2548 จากการชะลอตัวลงง ของง เศรษฐกิจสหรัฐฯ (ผลกระทบจากพายุเฮอริเคนแคทรินา) ที่คาดว่าจะปรับลดจีดีพีของง สหรัฐฯลงง และอาจทำให้ธนาคารกลางง สหรัฐฯต้องง ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด

* ความเสี่ยงง ต่อประเด็นเสถียรภาพทางง ด้านต่างง ประเทศที่ผ่อนคลายลงง หลังง ดุลบัญง ชีเดินสะพัดพลิกกลับมาเกินดุลได้ในเดือนกรกฎาคม

* สภาพคล่องง ในระบบการเงง ินที่ยังง คงง มีระดับสูงง ทำให้กลไกการส่งง ผ่านนโยบายการเงง ินของง ธปท.ไปสู่ภาคเศรษฐกิจในวงง กว้างง ยังง คงง ทำงง านได้ไม่เต็ม 100%
ง ความเสี่ยงง ต่อประเด็นเสถียรภาพทางง ด้านระดับราคาและอัตราเงง ินเฟ้อที่มีมากขึ้น ภายหลังง อัตราเงง ินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงง ินเฟ้อพื้นฐานเร่งง สูงง ขึ้นในเดือนสิงง หาคม ซึ่งง ความเสี่ยงง นี้ยังง มีแนวโน้มดำรงง อยู่ต่อเนื่องง ตราบเท่าที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังง คงง ผันผวนอยู่ในระดับสูงง โดยอัตราเงง ินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มที่จะขยับขึ้นสูงง เหนือ 5% ตลอดช่วงง ที่เหลือของง ปีนี้


ดูรายละเอียดฉบับเต็ม


ตลาดการเงิน