Display mode (Doesn't show in master page preview)

19 กันยายน 2548

ตลาดการเงิน

เฟดน่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ติดต่อกันเป็นรอบที่ 11 ในการประชุมวันที่ 20 กันยายนนี้

คะแนนเฉลี่ย

ในวันที่ 20 กันยายน 2548 คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (Federal Open Market Committee: FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด มีกำหนดจะประชุมรอบที่ 6 ของปีนี้เพื่อพิจารณาทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินหรือนโยบายอัตราดอกเบี้ย หลังจากที่เฟดได้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย Fed Funds ครั้งละ 0.25% ติดต่อกันมาแล้วในการประชุม 10 รอบหลังสุด ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า มีความเป็นไปได้ค่อนข้างมากที่เฟดจะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% เป็นรอบที่ 11 ติดต่อกันในการประชุมวันที่ 20 กันยายนนี้ ซึ่งจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ย Fed Funds ขยับขึ้นจาก 3.50% เป็น 3.75% ในขณะที่ นอกเหนือจากทิศทางอัตราดอกเบี้ย Fed Funds แล้ว สิ่งสำคัญที่ยังต้องจับตาอย่างใกล้ชิดคงจะหลีกไม่พ้นแถลงการณ์หลังการประชุมของเฟด ซึ่งจะสะท้อนถึงแนวโน้มการดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยของเฟดในระยะข้างหน้า รวมทั้งน่าจะครอบคลุมมุมมองของเฟดต่อกรณีผลกระทบของพายุเฮอริเคนแคทรินาที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ การให้น้ำหนักความเสี่ยงด้านการขยายตัวของเศรษฐกิจและด้านเงินเฟ้อว่าจะยังคงอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสมดุลต่อเนื่องต่อไปอีกหรือไม่ ตลอดจนเฟดจะยังคงถ้อยแถลงที่ระบุว่าอัตราดอกเบี้ยยังมีระดับค่อนข้างต่ำและควรที่จะปรับเข้าสู่ระดับที่มีความเป็นกลางมากขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปในการประชุมครั้งนี้หรือไม่

สำหรับเหตุผลที่สนับสนุนการคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย Fed Funds อีก 0.25% ของเฟดในการประชุมรอบนี้ คงจะได้แก่ การที่เศรษฐกิจสหรัฐฯอาจได้รับผลกระทบที่ค่อนข้างจำกัดจากพายุเฮอริเคนแคทรินา โดยราคาน้ำมันที่เริ่มชะลอตัวลง และกำลังการผลิตในอ่าวเม็กซิโกที่เริ่มจะกลับมาฟื้นตัวขึ้นทีละน้อย รวมทั้งมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบของรัฐบาล ซึ่งน่าจะช่วยชดเชยการจ้างงานที่หดหายไประหว่างเกิดภัยธรรมชาติ น่าที่จะเป็นปัจจัยหนุนให้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯกลับมาปรับตัวดีขึ้นได้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ในขณะที่ น้ำหนักความเสี่ยงทางด้านเงินเฟ้อมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น หลังองค์ประกอบด้านราคาของผลสำรวจกิจกรรมภาคการผลิตของธนาคารกลางสหรัฐฯสาขานิวยอร์กและฟิลาเดลเฟีย (price paid indices) ได้ปรับเร่งขึ้นอย่างมากในเดือนกันยายนจากเดือนก่อน และโดยเฉพาะหากผู้ผลิตสามารถจะส่งผ่านภาระต้นทุนไปยังผู้บริโภคขั้นสุดท้ายได้อย่างเต็มที่ในระยะข้างหน้า ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ย Fed Funds ล่วงหน้า หรือ Fed Funds Futures ก็ได้มีการปรับตัวรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ของเฟดในการประชุมรอบนี้ไปแล้วด้วยความเป็นไปได้ที่ระดับใกล้เคียง 90%

ด้านผลกระทบต่อภาคการเงินไทยในกรณีที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมวันที่ 20 กันยายนนี้ตามที่คาด นั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ทิศทางอัตราดอกเบี้ยในประเทศของไทยคงจะไม่ถูกกระทบมากนัก เนื่องจากการพิจารณาทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คงจะยังให้น้ำหนักกับปัจจัยภายในประเทศเป็นหลักมากกว่า โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยที่มีแนวโน้มยืนเหนือระดับ 5% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดว่าจะเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ธปท.ยังต้องเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่องต่อไป ในขณะที่ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดอาจหนุนให้เงินดอลลาร์ฯปรับแข็งค่าขึ้นในระยะสั้น แต่เงินดอลลาร์ฯก็อาจจะถูกกดดันให้อ่อนค่าลงได้ในระยะกลาง หากเฟดส่งสัญญาณถึงแนวโน้มที่ชะลอลงในวัฏจักรขาขึ้นของอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ นอกจากนี้ การคาดการณ์การปรับเพิ่มความยืดหยุ่นมากขึ้นของค่าเงินหยวนโดยนักลงทุนเป็นระยะๆ ก็น่าจะทำให้สกุลเงินในภูมิภาค รวมทั้งค่าเงินบาทของไทย ยังมีแนวโน้มที่จะปรับแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ฯในระยะข้างหน้า

ดูรายละเอียดฉบับเต็ม


ตลาดการเงิน