Display mode (Doesn't show in master page preview)

17 ตุลาคม 2548

ตลาดการเงิน

คาดแบงก์ชาติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในการประชุมวันที่ 19 ตุลาคม

คะแนนเฉลี่ย

ในวันที่ 19 ตุลาคม 2548 คณะกรรมการนโยบายการเงิน (Monetary Policy Committee: MPC) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีกำหนดจะประชุมรอบที่ 7 ของปีนี้เพื่อพิจารณาทิศทางการดำเนินนโยบายการเงิน หรือนโยบายอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจากสถานการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่ความเสี่ยงทางด้านเงินเฟ้อมีแนวโน้มว่าจะดำรงอยู่ต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่ง (อย่างน้อยก็จนถึงช่วงครึ่งแรกของปี 2549) ขณะที่ความเสี่ยงทางด้านการขยายตัวของเศรษฐกิจยังอยู่ในภาวะที่ไม่น่าเป็นกังวล ทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ธปท.คงจะยังเดินหน้าเพิ่มระดับความเข้มงวดของนโยบายอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง โดยที่วัฏจักรขาขึ้นของอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธปท.ในรอบนี้อาจจะยังไม่สิ้นสุดลงในระยะใกล้นี้

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่คาดว่าจะมีอิทธิพลต่อขนาดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธปท.ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.25% หรือ 0.50% นั้น คงจะขึ้นอยู่กับ มุมมองของธปท.ต่อประเด็นความเสี่ยงทั้งสองด้านว่ามีน้ำหนักมากน้อยเพียงใด ตลอดจนคงจะอยู่ที่ความมุ่งหวังของธปท.ต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ยในระบบการเงินไทยว่าจะให้เพิ่มขึ้นในอัตราเร่งมากน้อยเพียงไรด้วย

โดยสรุปแล้ว ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเห็นว่า การตัดสินใจนโยบายอัตราดอกเบี้ยในการประชุมรอบนี้ ธปท.คงจะพิจารณาปัจจัยแวดล้อมต่างๆ อย่างถี่ถ้วน ซึ่งไม่ว่าธปท.จะเลือกปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% หรือ 0.50% ก็คงจะมีผลที่ไม่แตกต่างกันมากในด้านการส่งสัญญาณทิศทางขาขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในระบบการเงินไทย โดยคงจะได้เห็นการทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของระบบธนาคารพาณิชย์ตามมาเป็นระลอกอีก ขณะเดียวกัน การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธปท.ก็คงจะเป็นผลดีต่อการรักษาสมดุลของดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้ายสุทธิและค่าเงินบาทของไทย เพราะช่องว่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯและไทยจะปรับลดลงชั่วคราว มาอยู่ที่ 0.25% ในกรณีที่ธปท.ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% และเป็น 0% ในกรณีที่ธปท.ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐฯจะประชุมเพื่อกำหนดทิศทางอัตราดอกเบี้ย Fed Funds ในวันที่ 1 พฤศจิกายน ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมีความคิดเห็นค่อนข้างจะเอนเอียงไปในการคาดการณ์ว่าธปท.น่าจะเลือกปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% ในการประชุมวันที่ 19 ตุลาคม หรืออัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตรระยะ 14 วันปรับขึ้นจาก 3.25% มาอยู่ที่ 3.75% เนื่องจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% ของธปท. น่าจะเป็นการดำเนินการในลักษณะก้าวล่วงหน้าก่อนที่ปัญหาจะเกิดขึ้น (Pre-emptive) ได้ดีกว่า ภายใต้ภาวะที่อัตราเงินเฟ้อยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ต่อเนื่องถึงช่วงครึ่งแรกของปีหน้า และภาวะที่แนวโน้มราคาน้ำมันยังมีความไม่แน่นอน รวมทั้ง การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% ยังน่าจะสอดคล้องกับความมุ่งหวังของธปท.ที่จะเห็นระดับอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงกลับมามีค่าเป็นบวกได้ภายในครึ่งแรกของปีหน้าด้วย นอกจากนี้ แม้ธปท.จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอัตราเร่งที่ 0.50% แต่ธปท.ก็ยังมีความยืดหยุ่นที่จะเปลี่ยนแปลงนโยบายอัตราดอกเบี้ยได้อีกในอนาคตหากสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้

ดูรายละเอียดฉบับเต็ม


ตลาดการเงิน