Display mode (Doesn't show in master page preview)

31 ตุลาคม 2548

ตลาดการเงิน

เฟดคงจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมวันที่ 1 พฤศจิกายน

คะแนนเฉลี่ย

ท่ามกลางความเสี่ยงทางด้านเงินเฟ้อของสหรัฐฯที่ยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะหากผู้ผลิตสามารถส่งผ่านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไปยังผู้บริโภคขั้นสุดท้ายได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ในขณะที่ เศรษฐกิจสหรัฐฯยังคงเติบโตไปได้ดีต่อเนื่อง แม้ว่าจะต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติจากพายุ ทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คงจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย Fed Funds อีก 0.25% จาก 3.75% มาอยู่ที่ 4.00% ในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินวันที่ 1 พฤศจิกายน 2548 นี้ โดยที่การเสนอชื่อประธานเฟดคนใหม่คงจะไม่มีผลเปลี่ยนแปลงการดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยที่เข้มงวดมากขึ้นของเฟดในระยะใกล้ หรือภายในระยะเวลา 3 เดือนข้างหน้า ซึ่งการประเมินข้างต้นสามารถสนับสนุนได้จากทิศทางอัตราดอกเบี้ย Fed Funds ในตลาดล่วงหน้า หรือ Fed Funds Futures ที่บ่งชี้ถึงการคาดการณ์ของตลาดว่าเฟดคงจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องในการประชุมอีก 2 รอบที่เหลือของปีนี้ หรืออัตราดอกเบี้ย Fed Funds ขยับขึ้นเป็น 4.00% และ 4.25% ณ ปลายปี 2548 ตามลำดับ ด้วยความเป็นไปได้ประมาณ 90%

อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากการประกาศทิศทางอัตราดอกเบี้ย Fed Funds แล้ว แถลงการณ์หลังการประชุมที่จะสะท้อนมุมมองของเฟดต่อแนวโน้มภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ และยังเป็นสัญญาณของการดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยของเฟดในอนาคต ก็เป็นสิ่งที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดด้วย สำหรับผลกระทบต่อภาคการเงินไทยนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เห็นว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ คงจะไม่ใช่ปัจจัยหลักที่ธปท.จะพิจารณาสำหรับการดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ย ซึ่งธปท.คงจะเน้นให้น้ำหนักกับปัจจัยภายในประเทศและเลือกปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในจังหวะเวลาที่มีความเหมาะสม พร้อมๆ กันนั้น ธปท.ก็คงจะมีการดูแลค่าเงินบาทไม่ให้เคลื่อนไหวผันผวนออกนอกกรอบความเคลื่อนไหวของสกุลเงินภูมิภาคจนส่งผลในเชิงลบต่อความสามารถทางการแข่งขันของประเทศด้วยเช่นกัน

ดูรายละเอียดฉบับเต็ม


ตลาดการเงิน