Display mode (Doesn't show in master page preview)

13 ตุลาคม 2549

ตลาดการเงิน

อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย ... คาดว่าจะยืนที่ร้อยละ 5.00 รอดูผลกระทบของสถานการณ์น้ำท่วมต่อภาวะเงินเฟ้อ (มองเศรษฐกิจ ฉบับที่ 1878)

คะแนนเฉลี่ย
แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงภายในคณะกรรมการนโยบายการเงิน (Monetary Policy Committee) หรือ กนง. ของทางการไทย ภายหลังการเข้าร่วมคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล และนายเกริกไกร จีระแพทย์ แต่เป็นที่เชื่อมั่นว่าการตัดสินใจในการดำเนินนโยบายการเงินของกนง.จะยังคงเป็นไปเพื่อสนับสนุนการเจริญเติบโตที่ยั่งยืนผ่านการดูแลรักษาเสถียรภาพทางด้านราคา ตามกรอบเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ (Inflation Targeting) เช่นเดิม ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ในการประชุมรอบที่ 7 ของปีในวันที่ 18 ตุลาคม 2549 กนง.คงจะมีมติให้ตรึงอัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตรระยะ 14 วันไว้ที่ร้อยละ 5.00 ตามเดิม โดยแม้ว่ากนง.น่าจะมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการดำเนินนโยบายการเงิน ภายหลังแรงกดดันเงินเฟ้อในประเทศที่ผ่อนคลายลงเริ่มปรากฏให้เห็นชัดเจนมากขึ้น อีกทั้ง ปัญหาความไม่แน่นอนทางการเมืองเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น แต่การตัดสินใจดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงนั้น กนง.อาจจะยังต้องรอพิจารณาอีกหลายปัจจัยเพื่อเลือกจังหวะเวลาที่เหมาะสมต่อไปอีกระยะหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น แนวโน้มการปรับตัวของราคาน้ำมันและอัตราเงินเฟ้อ ผลกระทบจากภาวะน้ำท่วม การเบิกจ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาลเฉพาะกาล รวมทั้งแนวโน้มการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในขณะที่ การตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิมของกนง. ก็น่าที่จะมีผลให้อัตราดอกเบี้ยในประเทศ หรืออัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ ไม่เปลี่ยนแปลงไปจากระดับปัจจุบันมากนัก โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยเห็นว่า การแข่งขันกันปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งได้ส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์มีปริมาณสภาพคล่องในระดับที่มากพอสำหรับรองรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจในระยะต่อไป คงจะทำให้โอกาสที่ธนาคารพาณิชย์จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้เป็นการทั่วไปอีก มีจำกัด โดยหากจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก ก็น่าจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเฉพาะบางประเภทหรือการนำเสนอผลิตภัณฑ์พิเศษเพื่อบริหารสภาพคล่องของแต่ละธนาคารเท่านั้น

ดูรายละเอียดฉบับเต็ม


ตลาดการเงิน