Display mode (Doesn't show in master page preview)

20 มีนาคม 2550

ตลาดการเงิน

คาดเฟดยังคงอัตราดอกเบี้ย Fed Funds เท่าเดิมที่ร้อยละ 5.25 (มองเศรษฐกิจ ฉบับที่ 1962)

คะแนนเฉลี่ย
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ในการประชุมรอบที่สองของปีในวันที่ 20-21 มีนาคม 2550 คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด คงจะมีมติให้ตรึงอัตราดอกเบี้ย Fed Funds ไว้ที่ร้อยละ 5.25 ตามเดิม โดยเฟดน่าจะยังคงให้น้ำหนักหลักอยู่ที่ความเสี่ยงทางด้านเงินเฟ้อ โดยเฉพาะอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานทางด้านผู้บริโภคและที่วัดจากดัชนีราคาการใช้จ่ายผู้บริโภคส่วนบุคคลที่ยังคงมีระดับสูงกว่ากรอบที่เฟดรู้สึกว่าปกติ (comfort zone) ในขณะที่ เครื่องชี้เศรษฐกิจสหรัฐฯส่วนใหญ่ยังคงให้ภาพการปรับตัวที่ไม่น่าวิตกจนเกินไปนัก ส่วนประเด็นปัญหาในตลาดการจำนองสำหรับลูกค้าที่มีความน่าเชื่อถือต่ำ (subprime mortgage segment) นั้น เฟดคงจะเฝ้าติดตามรายงานข้อมูลเศรษฐกิจเพิ่มเติมอีกระยะหนึ่งเพื่อประเมินว่าประเด็นความเสี่ยงดังกล่าวจะแผ่ขยายไปสู่ภาคธุรกิจและเศรษฐกิจสหรัฐฯในวงกว้างมากน้อยเพียงใด ก่อนที่จะตัดสินใจดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมต่อไป อย่างไรก็ตาม หากเครื่องชี้เศรษฐกิจสหรัฐฯมีทิศทางที่บ่งชี้ถึงภาวะการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจที่ชัดเจนมากขึ้น ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังไม่ปรับตัวลดลงมากเท่าที่คาดหวัง การดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยของเฟดอาจจะต้องเผชิญกับความท้าทายที่มากขึ้นในอนาคต
สำหรับผลกระทบต่อประเทศไทยนั้น ระดับความรุนแรงของการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะจากปัญหาในตลาดการจำนองและภาคอสังหาริมทรัพย์ คาดว่าจะมีอิทธิพลต่อแนวโน้มการส่งออกของไทยในระยะข้างหน้า นอกจากนี้ แม้ว่าในระยะสั้น การคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมของเฟด ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยมีแนวโน้มปรับลดลงอีก อาจจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยชะลอการแข็งค่าของเงินบาทเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ฯไว้ได้บ้าง แต่ในระยะปานกลางและยาว ซึ่งเฟดอาจมีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง สวนทางกับนโยบายอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นของธนาคารกลางยุโรปและธนาคารกลางญี่ปุ่น เงินดอลลาร์ฯอาจยังมีแนวโน้มที่จะตกอยู่ภายใต้แรงกดดัน นั่นหมายความว่า เงินบาทยังอาจมีแนวโน้มจะได้รับแรงหนุนให้ปรับตัวแข็งค่าขึ้นจากปัจจัยภายนอกประเทศอันเนื่องมาจากแนวโน้มเงินดอลลาร์ฯที่อ่อนค่าลงดังกล่าว ถึงแม้ว่าปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจภายในประเทศอาจจะไม่เอื้อต่อการแข็งค่าขึ้นของเงินบาทก็ตาม

ดูรายละเอียดฉบับเต็ม


ตลาดการเงิน