ท่ามกลางภาวะที่เครื่องชี้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังมีทิศทางที่ไม่ชัดเจน ประกอบกับ การที่แรงกดดันทางด้านเงินเฟ้อยังคงเป็นน้ำหนักหลักสำหรับธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในการตัดสินใจนโยบายอัตราดอกเบี้ยอยู่ ถึงแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานล่าสุดในเดือนมีนาคมจะเริ่มปรับตัวเข้าใกล้ขอบเขตที่เฟดรู้สึกว่าเป็นภาวะปกติ (comfort zone) มากขึ้นก็ตาม ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ในการประชุมรอบที่สามของปีในวันที่ 9 พฤษภาคม 2550 นี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟด คงจะมีมติให้ยืนอัตราดอกเบี้ย Fed Funds ไว้ที่ร้อยละ 5.25 ตามเดิม โดยแถลงการณ์หลังการประชุม ตลอดจนการปรับตัวของเครื่องชี้เศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่สำคัญในระยะถัดไป จะยังคงเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลหลักสำหรับการพิจารณานโยบายอัตราดอกเบี้ยของเฟดในระยะข้างหน้า ในขณะที่ ณ ขณะนี้ ตลาดได้คาดการณ์ด้วยความเป็นไปได้ไม่ถึงครึ่งว่า การผ่อนคลายนโยบายอัตราดอกเบี้ยของเฟด หากจะเกิดขึ้น อาจจะเป็นไปในช่วงไตรมาสที่ 4 หรือในช่วงปลายปี 2550
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เห็นว่า นอกเหนือจากปัจจัยเกี่ยวกับความคืบหน้าของเสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจภายในประเทศที่จะมีอิทธิพลต่อแนวโน้มค่าเงินบาทในช่วงที่เหลือของปี 2550 แล้ว การที่เฟดอาจยังไม่มีแนวโน้มจะปรับลดนโยบายอัตราดอกเบี้ยลงในระยะใกล้ ซึ่งแตกต่างกับคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ยังถูกคาดหวังว่าจะดำเนินการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (อัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตรระยะ 1 วัน) ลงอีกนั้น คงจะเป็นปัจจัยส่วนหนึ่งที่น่าจะช่วยจำกัดการปรับตัวแข็งค่าขึ้นของเงินบาทเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ไว้ไม่ให้เกิดขึ้นในอัตราที่รวดเร็วเกินไปดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2549 ที่ผ่านมา
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น