ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงหลุดแนว 1,500 จุด หลังจากที่ขยับขึ้นช่วงต้นสัปดาห์ตามแรงซื้อจากกลุ่มนักลงทุนสถาบันตอบรับความคืบหน้าทางการเมืองในประเด็นการโหวตประธานสภาฯ อย่างไรก็ดีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงในเวลาต่อมาตามทิศทางหุ้นต่างประเทศท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด หลังรายงานการประชุมเฟดสะท้อนว่าเจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่สนับสนุนการปรับขึ้นดอกเบี้ยในระยะข้างหน้า รวมถึงตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ ออกมาแข็งแกร่ง ประกอบกับนักลงทุนมีความระมัดระวังระหว่างรอติดตามประเด็นความคืบหน้าทางการเมืองในสัปดาห์หน้า โดยนักลงทุนต่างชาติอยู่ในฝั่งขายสุทธิหุ้นไทยทุกวันทำการตลอดสัปดาห์นี้
ในวันศุกร์ที่ 7 ก.ค. ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,490.51 จุด ลดลง 0.84% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 39,313.94 ล้านบาท ลดลง 15.81% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 0.37% มาปิดที่ระดับ 458.09 จุด
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (10-14 ก.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,475 และ 1,460 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,520 และ 1,545 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ทิศทางเงินทุนต่างชาติ และสถานการณ์การเมืองในประเทศ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนมิ.ย. รายงาน Beige Book ของเฟด รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค. ของยูโรโซนและญี่ปุ่น และข้อมูลเศรษฐกิจเดือนมิ.ย. ของจีน อาทิ ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ตัวเลขนำเข้าและส่งออก
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น