ดัชนีหุ้นไทยปิดใกล้เคียงสัปดาห์ก่อน ทั้งนี้หุ้นไทยขยับขึ้นช่วงต้นถึงกลางสัปดาห์ โดยมีแรงซื้อหุ้นบิ๊กแคปในหลายอุตสาหกรรม ซึ่งคาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากกองทุน TESG และคาดการณ์เกี่ยวกับการคงดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมสัปดาห์หน้า หุ้นไทยร่วงลงแรงในเวลาต่อมา ท่ามกลางแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลดลง และหุ้นบิ๊กแคปในกลุ่มเทคโนโลยีจากความกังวลว่าจะหลุดจากการคำนวณดัชนี SET50 และ SET100 อย่างไรก็ดี หุ้นไทยลดช่วงลบลงบางส่วนในช่วงปลายสัปดาห์ โดยมีแรงซื้อคืนหุ้นผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาช่วยหนุน
ในวันศุกร์ที่ 8 ธ.ค. ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,380.99 จุด เพิ่มขึ้น 0.05% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 37,650.03 ล้านบาท ลดลง 21.14% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 0.73% มาปิดที่ระดับ 400.51 จุด
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (11-15 ธ.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,365 และ 1,350 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,400 และ 1,410 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมเฟด (12-13 ธ.ค.) และทิศทางเงินทุนต่างชาติ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดค้าปลีกและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย. ดัชนี PMI (เบื้องต้น) เดือนธ.ค. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ การประชุม BOE และ ECB ดัชนี PMI (เบื้องต้น) เดือนธ.ค. ของญี่ปุ่น ยูโรโซนและอังกฤษ ตลอดจนข้อมูลเศรษฐกิจเดือนพ.ย. ของจีน อาทิ ยอดค้าปลีก การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น