ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงเกือบตลอดสัปดาห์ ทั้งนี้ SET Index ปรับตัวลง หลังเผชิญแรงกดดันจากบรรยากาศเชิงลบจากประเด็นความผิดปกติของธุรกรรมการซื้อขายหลักทรัพย์บริษัทแห่งหนึ่ง ความกังวลเกี่ยวกับประเด็นความขัดแย้งระหว่างประเทศหลังมีขีปนาวุธตกในโปแลนด์ รวมถึงแรงขายของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติและสถาบัน อนึ่ง หุ้นไทยกลับมาแกว่งตัวในกรอบแคบช่วงปลายสัปดาห์ระหว่างรอติดตามตัวเลขจีดีพีไทยที่จะประกาศในสัปดาห์หน้า ส่วนหุ้นกลุ่มที่ปรับตัวลงแรงในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ไฟแนนซ์ แบงก์ อสังหาริมทรัพย์ และพลังงานซึ่งมีแรงกดดันเพิ่มเติมจากราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวลงจากความกังวลด้านอุปสงค์
ในวันศุกร์ (18 พ.ย.) ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,617.38 จุด ลดลง 1.22% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 60,734.04 ล้านบาท ลดลง 10.21% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 3.97% มาปิดที่ระดับ 600.68 จุด
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (21-25 พ.ย.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,600 และ 1,585 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,630 และ 1,650 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/65 และตัวเลขส่งออกเดือนต.ค.ของไทย รวมถึงทิศทางเงินทุนต่างชาติ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI (เบื้องต้น) เดือนพ.ย. ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนต.ค. รวมถึงบันทึกการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 1-2 พ.ย. ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ดัชนี PMI (เบื้องต้น) เดือนพ.ย. ของยูโรโซน อังกฤษ และญี่ปุ่น รวมถึงการกำหนดอัตราดอกเบี้ย LPR เดือนพ.ย. ของจีน
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น