Display mode (Doesn't show in master page preview)

27 กุมภาพันธ์ 2567

ตลาดการเงิน

เงินบาทแกว่งตัวเป็นกรอบ ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยยังปิดต่ำกว่า 1,400 จุด

คะแนนเฉลี่ย

       หุ้นไทยปรับตัวลงช่วงต้นสัปดาห์หลังตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/66 ขยายตัวเพียง 1.7% YoY (ทั้งปี 2566 ขยายตัว 1.9%) ประกอบกับมีแรงขายหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากผิดหวังเรื่องผลประกอบการไตรมาส 4/66 อย่างไรก็ดีหุ้นไทยดีดตัวขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางสัปดาห์ตามแรงซื้อของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มแบงก์จากข่าวการประกาศจ่ายเงินปันผลของธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง นอกจากนี้การที่ ตลท. เตรียมออกมาตรการการกำกับดูแลการขายชอร์ต (short selling) และการใช้คอมพิวเตอร์ส่งคำสั่งซื้อขาย (program trading) รวมถึงมาตรการเพิ่มการเปิดเผยข้อมูลแก่สาธารณชน ก็เป็นปัจจัยบวกเพิ่มเติมที่ช่วยหนุนให้หุ้นไทยปรับตัวขึ้นผ่านระดับ 1,400 จุดได้อีกครั้ง
อย่างไรก็ดีหุ้นไทยย่อตัวลงหลุดระดับ 1,400 จุดในช่วงปลายสัปดาห์ เพราะแม้จะมีปัจจัยบวกจากตัวเลขการส่งออกของไทยเดือนม.ค. ที่ออกมาดีกว่าที่คาด แต่ก็มีแรงขายทำกำไรในหุ้นบิ๊กแคป โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์และไฟแนนซ์ซึ่งดีดตัวขึ้นแรงก่อนหน้านี้
       ในวันศุกร์ที่ 23 ก.พ. 2567 ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,398.14 จุด เพิ่มขึ้น 0.86% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 47,395.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.34% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 0.84% มาปิดที่ระดับ 421.72 จุด
       สัปดาห์ถัดไป (26 ก.พ.-1 มี.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,385 และ 1,375 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,410 และ 1,420 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด และทิศทางเงินทุนต่างชาติ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคล ดัชนี PCE/Core PCE Price Indices เดือนม.ค. ดัชนี ISM/PMI ภาคการผลิตเดือนก.พ. ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/66 รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนก.พ. ของญี่ปุ่น จีน ยูโรโซนและอังกฤษ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนม.ค. ของญี่ปุ่น รวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนก.พ. ของยูโรโซน

ดูรายละเอียดฉบับเต็ม


ตลาดการเงิน