ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม:
ประเด็นทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศคู่ค้า (ทั้งสหรัฐฯ-จีน และสหรัฐฯ-EU)
และรายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ของ
EIA
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี
PMI
ภาคบริการ ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
เงินบาทตลาดในประเทศ
อ่อนค่าลงวานนี้ (2 ก.ค.) ตามทิศทางของสกุลเงินอื่นๆ
ในเอเชีย แม้ว่านักลงทุนต่างชาติจะซื้อสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยอย่างต่อเนื่องก็ตาม
ส่วนเช้าวันนี้ (3 ก.ค.)
เงินบาทแข็งค่ากลับมาที่ 30.58 บาทต่อดอลลาร์ฯ** ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ เผชิญแรงขายอีกครั้ง
ท่ามกลางความกังวลเรื่องข้อพิพาททางการค้าสหรัฐฯ-EU และความเสี่ยงต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
ตลาดหุ้นไทย ปรับลดลง ตลาดรอความชัดเจนของปัจจัยในประเทศ แม้จะยังมีแรงซื้อสุทธิจากนักลงทุนต่างชาติก็ตาม
ตลาดหุ้นต่างประเทศโดยรวมปิดบวก จากประเด็นการกลับมาเจรจาการค้ากันอีกครั้งระหว่างสหรัฐฯ และจีน ขณะที่ ตลาดหุ้นจีน ปิดลบเล็กน้อย จากถ้อยแถลงล่าสุดของปธน.ทรัมป์ ที่ระบุว่าการเจรจารอบใหม่ได้เริ่มขึ้นแล้ว แต่ทุกข้อตกลงที่ทำกับจีนจะต้องส่งผลดีต่อสหรัฐฯ
ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง
ท่ามกลางความกังวลต่อภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
ขณะที่ผลการประชุมโอเปกเป็นไปตามที่คาดขณะที่ราคาทองคำ (Spot) ปรับเพิ่มขึ้น โดยนักลงทุนกลับมาซื้อทองคำอีกครั้ง หลังราคาร่วงลงไปมากในช่วงก่อนหน้านี้
ที่มา:
ธปท.,
Bisnews, www.bloomberg.com
รวบรวมโดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย
หมายเหตุ:
*อัตราอ้างอิงจากธปท. **ข้อมูล ณ เวลา 8.25 น.
Scan QR Code
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น