Display mode (Doesn't show in master page preview)

10 พฤษภาคม 2564

Econ Digest

ช่วงที่เหลือของปี 2564 สินค้าเกษตรเผชิญ 2 ปัจจัย ทั้งผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมากและแรงฉุดจากโควิด 19

คะแนนเฉลี่ย

​​​

ราคาสินค้าเกษตรในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2564 ส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนผ่านดัชนีราคาที่ขยายตัวราว 10.4%  โดยเฉพาะยางพารา มันสำปะหลัง อ้อย และปาล์มน้ำมัน เนื่องจากความต้องการยังมีอยู่ทั้งในและต่างประเทศ แม้ต้องเผชิญการแพร่ระบาดของโควิด 19 เนื่องจากสินค้าเกษตรเป็นสินค้าที่จำเป็นต่อการบริโภค ทำให้ได้รับผลกระทบไม่มากนัก ขณะที่ข้าวมีราคาปรับตัวลดลง เนื่องจากการแข่งขันในตลาดโลกที่รุนแรงขึ้นและปริมาณผลผลิตที่เพิ่มขึ้นราว 1.3%  เนื่องจากภัยแล้งที่ไม่รุนแรงนัก

ช่วงที่เหลือของปี 2564 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ราคาสินค้าพืชเกษตรหลักส่วนใหญ่ น่าจะให้ภาพที่ลดลง ทั้งในรายการข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน และอ้อย เนื่องจากได้รับแรงกดดันทั้งในฝั่งของอุปทาน ที่มีผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมาก จากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย ขณะที่ฝั่งอุปสงค์ ยังต้องเผชิญกับผลกระทบจากโควิด 19 ที่ฉุดรั้งความต้องการสินค้าเกษตรจากในประเทศในระดับหนึ่ง ทำให้คาดว่า ในช่วงที่เหลือของปี 2564 ภาพรวมราคาสินค้าเกษตร อาจขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงที่กรอบ 0.3-1.3% ขณะที่ผลผลิตสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้น 1.1-2.1% ส่งผลต่อรายได้เกษตรกรขยายตัวที่ 1.9-2.9%

สำหรับภาพรวมทั้งปี 2564 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ภาพรวมราคาสินค้าเกษตร น่าจะประคองการขยายตัวในแดนบวกได้ที่ 3.5-4.5% ขณะที่ปริมาณผลผลิตสินค้าเกษตรขยายตัว 1.0-2.0% ส่งผลต่อรายได้เกษตรกรให้ขยายตัวในกรอบ 5.0-6.0% ซึ่งสูงกว่าอัตราการขยายตัวในปี 2563  ทั้งนี้ พืชที่มีราคาเพิ่มขึ้นอย่าง ยางพารา มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน และอ้อย น่าจะทำให้รายได้เกษตรกรกลุ่มนี้ อยู่ในเกณฑ์ดี ขณะที่พืชที่มีราคาลดลงอย่างข้าว อาจส่งผลกระทบกดดันต่อรายได้ของชาวนา ดังนั้น ข้าว จึงน่าจะเป็นพืชที่ได้รับความช่วยเหลือเฉพาะหน้าจากภาครัฐก่อนเป็นอันดับแรก ​

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest