เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 5 ปีที่ 34.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ ตามสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชีย นำโดยเงินเยน และเงินหยวน ที่อ่อนค่าลงท่ามกลางสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงิน สวนทางกับธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ถูกคาดหมายว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% พร้อมกับปรับลดงบดุลในเดือนพ.ค. และมีโอกาสเร่งขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องอีกเพื่อสกัดเงินเฟ้อสหรัฐฯ อย่างไรก็ดีเงินบาทฟื้นตัวกลับมาบางส่วนช่วงท้ายสัปดาห์จากแรงซื้อตามปัจจัยทางเทคนิคและการปรับโพสิชันก่อนการประชุมเฟดวันที่ 3-4 พ.ค.
สัปดาห์ระหว่างวันที่ 2-6 พ.ค. 2565 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 33.80-34.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุมเฟด สถานการณ์ยูเครน-รัสเซีย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ อัตราเงินเฟ้อเดือนเม.ย. ของไทย ข้อมูลตลาดแรงงานเดือนเม.ย. ของสหรัฐฯ ตลอดจนดัชนี PMI ภาคการผลิต/ภาคบริการของสหรัฐฯ จีน ยุโรปและอังกฤษ
Scan QR Code
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น