ไตรมาส 3/64 เศรษฐกิจจีนเผชิญหลากประเด็นเศรษฐกิจในขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมีจำกัด ส่งผลให้ภาพรวมการเติบโตชะลอตัวที่ 4.9% (YoY) ต่อเนื่องจากไตรมาส 1 และ 2 ที่ขยายตัว 18.3% และ 7.9% ตามลำดับ โดยภาคการผลิตถูกกดดันจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นและปัญหาขาดแคลนพลังงาน ทำให้ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ขยายตัวในกรอบ 9.0 – 10.7 % จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ อาทิ ถ่านหิน เหล็ก และเคมีภัณฑ์ที่สูงต่อเนื่อง ส่วนในภาคบริการ ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างจากการปิดเมืองเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโควิด-19 สำหรับการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร มีสัญญาณชะลอตัว โดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ถูกกดดันจากทั้งมาตรการของรัฐและแรงกดดันจากตลาด แม้การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรโดยทั่วไปยังขยายตัวที่ 7.3% (YTD, YoY) แต่ความกังวลของภาคเศรษฐกิจกำลังเริ่มก่อตัว หลังมีข่าวบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ผิดนัดชำระหนี้ ทำให้การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรอาจชะลอลง อย่างไรก็ตาม การส่งออกยังคงขยายตัว 22.7% แตะระดับ 15.55 ล้านล้านหยวน ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะที่การนำเข้าขยายตัว 22.6 % แตะระดับ 12.79 ล้านล้านหยวน
สำหรับไตรมาสสุดท้ายของปี คาดว่าเศรษฐกิจจีนยังคงเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลง จากฐานที่สูงในปี63 และปัจจัยความไม่แน่นอน โดยเฉพาะวิกฤติพลังงานขาดแคลนที่อาจลากยาวข้ามช่วงฤดูหนาวของปี แม้ทางการจีนพยายามแสวงหาแหล่งพลังงานใหม่ทดแทนการใช้ถ่านหินอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ถ่านหินยังคงเป็นแหล่งพลังงานหลักของจีนในการใช้ผลิตไฟฟ้า โดยมีสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าถึง 65% ซึ่งผลกระทบต่อภาคการผลิตจีนยังเป็นประเด็นที่ต้องติดตาม เนื่องจากห่วงโซ่การผลิตจีนและโลกเชื่อมโยงกันค่อนข้างสูง การชะงักงันของภาคผลิตจีนจึงอาจส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่การผลิตโลก ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ปรับลดประมาณการเติบโตทางเศรษฐกิจจีนทั้งปี 64 ลงมาอยู่ที่ 7.5 – 8.0 % จากความเสี่ยงด้านวิกฤติพลังงานที่อาจทวีความรุนแรงในช่วงฤดูหนาว ซึ่งอาจมีผลกระทบเศรษฐกิจเป็นวงกว้างทั้งภาคผลิตและภาคบริการ ประกอบกับปัญหาเดิมที่ยังคงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการผิดนัดชำระหนี้ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่ส่งกระทบต่อภาคอสังหาริมทรัพย์และบรรยากาศการลงทุนของจีนในภาพรวม รวมถึงความเสี่ยงด้านสงครามการค้าที่ยังไม่คลี่คลาย และการออกมาตรการของทางการในการควบคุมธุรกิจต่างๆ เพิ่มเติม ทั้งนี้ เชื่อว่าทางการจีนจะสามารถประคับประคองเศรษฐกิจให้ขยายตัวไม่ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ หรือขยายตัวทั้งปีไม่ต่ำกว่า 6.0%
Scan QR Code
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น