Display mode (Doesn't show in master page preview)

11 กันยายน 2567

Econ Digest

ส่งออกจีนเดือน ส.ค. 67 ยังได้รับอานิสงส์จากการเร่งส่งออกก่อนการเลือกตั้งสหรัฐฯ

คะแนนเฉลี่ย

ส่งออกจีนเดือน ส.ค. 67 ยังได้รับอานิสงส์จากการเร่งส่งออกก่อนการเลือกตั้งสหรัฐฯ

  • การส่งออกจีนเดือนส.ค.67 ขยายตัวที่ 8.7%YoY จากฐานที่ต่ำในปีก่อน และการเร่งส่งออกก่อนการเลือกตั้งสหรัฐฯ ในเดือนพ.ย.67 โดยการส่งออกไปยังสหรัฐฯ และยุโรปยังเติบโตได้ดี
  • ด้านรายสินค้าปริมาณการส่งออกเหล็กเร่งตัวสูงขึ้น หลังความต้องการก่อสร้างในจีนยังชะลอตัว ทำให้ผู้ผลิตเหล็กในจีนมีแนวโน้มส่งออกเพิ่มขึ้น โดยตัวเลขการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์เดือน           ม.ค.-ก.ค.67 ชะลอลงอยู่ที่ -10.2%YoY  ล่าสุดบริษัทที่ปรึกษาในเซี่ยงไฮ้ระบุว่าการส่งออกเหล็กของจีนในปี 67 นี้จะขยายตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 8 ปี
  • ขณะที่การส่งออกยานพาหนะ (Vehicles) ยังขยายตัวได้ดี โดยการส่งออกรถยนต์ของจีนยังได้เปรียบในเรื่องของราคา แม้ว่าทางการยุโรปจะปรับขึ้นภาษีการนำเข้ารถยนต์ EV จากจีนเมื่อเดือนก.ค.67 ที่ผ่านมา   ทั้งนี้ ทางการยุโรปได้เริ่มทยอยปรับลดอัตราภาษีนำเข้ารถยนต์ EV จากจีนในบางบริษัทรถยนต์ เช่น Tesla ที่ผลิตในจีน และ Geely เป็นต้น สะท้อนถึงทิศทางการส่งออกรถยนต์จีนที่ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อในช่วงที่เหลือของปี 67
  • ในระยะข้างหน้าการส่งออกจีนยังมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นจากความไม่แน่นอนในการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้า หลังทางสหรัฐฯ มีการเลื่อนจัดเก็บภาษีสินค้าจากเดิมที่จะมีผลบังคับใช้ในเดือนส.ค.67   ทั้งนี้ ติดตามความเสี่ยงเรื่องปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ และแนวโน้มการปรับขึ้นภาษีสินค้าโดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่จีนมีกำลังการผลิตส่วนเกิน  ล่าสุดทางแคนาดาได้ประกาศขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากจีนเพิ่มขึ้นอีก 100% (เดิมภาษีอยู่ที่ 6.1%) รวมถึงภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมที่ 25% (เดิมภาษีเหล็กอยู่ที่ 0% และอลูมิเนียมอยู่ที่ 1.2%)  แม้สัดส่วนการส่งออกรถยนต์จากจีนไปแคนาดาจะมีเพียงเล็กน้อยที่ประมาณ 1% แต่ถือเป็นการสะท้อนภาพความเสี่ยงเรื่องภูมิรัฐศาสตร์ที่จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกจีนในระยะต่อไป



Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น