Display mode (Doesn't show in master page preview)

15 มิถุนายน 2564

Econ Digest

ค่ายรถจีน ทยอย ลงทุนไทย สร้างโอกาส...ขยายตลาดส่งออกรถยนต์ของไทย

คะแนนเฉลี่ย

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาด ส่งออกรถยนต์ไทยปีนี้ฟื้นตัวดีขึ้นจากปีก่อน เนื่องจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าหลักในกลุ่มโอเชียเนียและเอเชียฟื้นตัวดีขึ้น ขณะที่ค่ายรถญี่ปุ่นก็ให้ไทยเป็นฐานผลิตเพื่อส่งออกรถยนต์มากขึ้น โดยเฉพาะส่งกลับญี่ปุ่น แต่ยังมีความเสี่ยงที่กดทับอยู่ 2 ด้าน คือ (1) การระบาดของโควิด-19 ในประเทศคู่ค้าของไทย ที่ยังมีความไม่แน่นอน และ (2) ปัญหาการขาดแคลนชิปอิเล็กทรอนิกส์ ที่แม้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าทยอยคลี่คลายตั้งแต่ไตรมาส 3 ปีนี้ แต่การขาดแคลนชิปจากโรงงานผลิตหลักอื่นของโลกที่ยังไม่คลี่คลายอาจส่งผลต่อการวางแผนจัดสรรชิปไปยังโรงงานที่กระจายอยู่ทั่วโลก ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังมีมุมมองที่ระมัดระวังโดยคาดว่ายอดส่งออกรถยนต์จะอยู่ที่ 890,000 – 950,000 คัน ขยายตัว 21.0%-28.0% (YoY) จากฐานที่ต่ำมากในปีที่แล้ว

ในระยะข้างหน้า นอกจากเรื่องเทคโนโลยีรถยนต์ ZEV (Zero Emission Vehicle หรือรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์) ที่ไทยต้องเร่งพัฒนาแล้ว การส่งออกรถยนต์ไทยในตลาดหลักเดิมยังอาจต้องเจอกับการแข่งขันจากแหล่งผลิตอื่นมากขึ้นด้วย รวมไปถึงมาตรการที่จะเป็นอุปสรรคต่อการส่งออกซึ่งมีทิศทางเพิ่มมากขึ้น ขณะที่การไม่ได้เข้าร่วมบาง FTA ในอนาคตอาจทำให้ไทยส่งออกได้น้อยลง เช่น FTA กับกลุ่มอียู และกลุ่ม CPTPP 

อย่างไรก็ตาม ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า การเข้ามาลงทุนในไทยของค่ายรถจีนที่น่าจะทยอยเพิ่มขึ้นนับจากนี้ อาจช่วยเปิดตลาดส่งออกให้เพิ่มขึ้น ท่ามกลางความเสี่ยงต่อการสูญเสียตลาดจากการแข่งขันรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะหลังตลาดมุ่งสู่รถยนต์ ZEV เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ปัจจุบันรถยนต์สัญชาติจีนเริ่มเป็นที่ยอมรับของตลาดโลกมากขึ้น ทำให้การส่งออกโดยเฉพาะรถยนต์นั่งจากจีนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และตลาดส่งออกหลัก 4 อันดับแรกของไทย (ไม่รวมจีน) ต่างก็เปิดรับรถยนต์จากจีนเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม ยังมีประเด็นความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างรัฐบาลจีนกับตลาดหลักรถยนต์ ZEV อย่างสหรัฐฯ ยุโรป และออสเตรเลียที่ยังต้องติดตาม​​

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest