Display mode (Doesn't show in master page preview)

15 กันยายน 2564

Econ Digest

KResearch : วิเคราะห์ข่าวเช้าเศรษฐกิจ (15 กันยายน 2564)

คะแนนเฉลี่ย


ตลาดหุ้นเอเชียวันนี้ ระวังแรงขายตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ และรอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจส.ค. ของจีน

- ตลาดหุ้นเอเชียปิดผสมผสาน โดยหุ้นญี่ปุ่นพุ่งขึ้นมาปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 31 ปีจากความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนโควิดที่ค่อนข้างรวดเร็วและความหวังต่อการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ อย่างไรก็ดีหุ้นจีนและฮ่องกงเผชิญแรงขาย นำโดย หุ้นกลุ่มการเงินและอสังหาริมทรัพย์ หลังมีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่
- ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงรับข่าวข้อเสนอการปรับขึ้นภาษีของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ สังกัดพรรคเดโมแครต อาทิ ภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีกำไรจากการลงทุนและเงินปันผล ซึ่งเป็นเงื่อนไขในการผ่านร่างกฎหมายแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของ ปธน. ไบเดน 3.5 ล้านล้านดอลลาร์ฯ 
- อัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดเล็กน้อย แต่นักลงทุนบางส่วนยังคงรอติดตามสัญญาณชะลอ QE จากการประชุม FOMC 21-22 ก.ย. นี้ อย่างไรก็ดีตัวเลขเงินเฟ้อดังกล่าวกดดันบอนด์ยีลด์อายุ 10 ปีของสหรัฐฯ ให้ปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 1.30% และส่งผลให้เงินดอลลาร์ฯ อ่อนค่าลง แต่หนุนให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้น
- ราคาน้ำมันยังคงปรับเพิ่มขึ้น โดย WTI ยืนเหนือ 70 ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรล โดยราคาน้ำมันยังคงมีแรงหนุนจากปัจจัยด้านอุปทาน ซึ่งเกิดจากการที่กำลังการผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ ในอ่าวเม็กซิโกได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคนที่พัดถล่ม 
- รมว.ท่องเที่ยวยืนยันแผนการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในเฟส 2 และ 3 ที่จะเริ่มขึ้นในเดือนต.ค. นี้ ขณะที่กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างเตรียมพิจารณาเงื่อนไขสำหรับการเปิดรับลงทะเบียนผู้มีสิทธิรับสวัสดิการรัฐเพิ่มเติม 
- ปัจจัยติดตามวันนี้ ได้แก่ 1) ข้อมูลเศรษฐกิจจีน 2) ตัวเลขเงินเฟ้อของอังกฤษ และ 3) ปัจจัยทางการเมืองของไทย​
 

Caption Video


​​

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest