Display mode (Doesn't show in master page preview)

20 มกราคม 2565

Econ Digest

KResearch : วิเคราะห์ข่าวเช้าเศรษฐกิจ (20 มกราคม 2565)

คะแนนเฉลี่ย

​ตลาดหุ้นเอเชียอาจมีแรงซื้อคืน หลังเผชิญแรงเทขายวานนี้...ส่วนตลาดหุ้นไทย ลุ้นแรงหนุนเพิ่มเติมจากการปรับมาตรการจากที่ประชุมศบค.
 - ตลาดหุ้นส่วนใหญ่วานนี้ ซึ่งรวมถึงหุ้นไทย ปรับลดลง เนื่องจากตลาดกังวลเกี่ยวกับบอนด์ยีลด์ที่ขยับขึ้นในหลายประเทศ และสถานการณ์โควิด โดยเฉพาะฝั่งเอเชีย ที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อในหลายประเทศยังปรับขึ้น และอาจกดดันแนวโน้มเศรษฐกิจ โดยในวันนี้รอติดตามการตอบรับของตลาด หลัง PBOC ปรับลดอัตราดอกเบี้ย LPR ลงเพื่อช่วยหนุนเศรษฐกิจ
- อย่างไรก็ตาม หุ้นฝั่งยุโรปปรับขึ้น ตอบรับข่าวบวกของผลประกอบการไตรมาส 4/64 ของบจ.ที่ออกมาดีกว่าคาด ขณะที่ หุ้นสหรัฐฯ ปิดในแดนลบ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ลงมา 4 วันทำการติดต่อกัน ส่วนดัชนี NASDAQ ร่วงลงเข้าสู่โซนปรับฐาน หลังบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ขยับขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี
- ราคาน้ำมันทำ New High ต่อเนื่องในรอบ 7 ปี โดย WTI ปรับขึ้นมา 4 วันทำการติดต่อกัน โดยมีแรงหนุนจากข่าวการระงับท่อส่งน้ำมันระหว่างอิรัก-ตุรกี หลังมีเหตุระเบิดทางตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกี นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวกจากสถานการณ์ความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์  และ IEA ปรับเพิ่มคาดการณ์ความต้องการน้ำมันเพิ่มเติม
- เงินดอลลาร์ฯ อ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลัก โดยแม้ว่าเฟดมีแนวโน้มขยับดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. ด้วยความเป็นไปได้ 90% แต่ธนาคารกลางอังกฤษอาจขยับดอกเบี้ยในเดือน ก.พ. ซึ่งเร็วกว่าเฟด เพื่อดูแลแรงกดดันเงินเฟ้ออังกฤษที่พุ่งสูงสุดรอบ 30 ปี
- ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น มาแตะระดับสูงสุดรอบ 2 เดือน หลังเงินดอลลาร์ฯ อ่อนค่า ประกอบกับมีแรงหนุนเพิ่มจากประเด็นความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ รวมถึงความต้องซื้อทองคำเพื่อเป็นเครื่องมือชดเชยความเสี่ยงเงินเฟ้อ
- ปัจจัยติดตามวันนี้ ได้แก่ 1) การปรับมาตรการดูแลโควิดจากที่ประชุมศบค. ชุดใหญ่ 2) ข้อมูลสต็อกน้ำมันของสหรัฐฯ และ 3) การประกาศอัตราดอกเบี้ย LPR ของจีน


 
 

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest