Display mode (Doesn't show in master page preview)

21 มกราคม 2565

Econ Digest

KResearch : วิเคราะห์ข่าวเช้าเศรษฐกิจ (21 มกราคม 2565)

คะแนนเฉลี่ย

​หุ้นฝั่งเอเชียขาดแรงหนุน...ตลาดในประเทศวันนี้รอติดตามผลประกอบการกลุ่มแบงก์ และตัวเลขส่งออกไทย

 - ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ปิดปะปน โดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดในแดนบวกตามแรงซื้อคืนของนักลงทุน ขณะที่ตลาดหุ้นจีนปิดติดลบเล็กน้อยตามแรงขายทำกำไร หลังจากที่ตลาดปรับตัวขึ้นในช่วงแรกตามอานิสงส์จากการประกาศลดอัตราดอกเบี้ย LPR ทั้งอายุ 1 ปีและ 5 ปีของธนาคารกลางจีน
- ตลาดหุ้นไทยลงเล็กน้อยตามแรงขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติ โดยบรรยากาศตลาดหุ้นไทยขาดแรงหนุนใหม่ๆ เนื่องจากรับรู้ข่าวการนำมาตรการ Test & Go กลับมาใช้อีกครั้งไปมากแล้ว
- ด้านตลาดหุ้นฝั่งยุโรปยังคงปรับขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่สอง นำโดยแรงซื้อหุ้นกลุ่มเดินทาง และท่องเที่ยว ขณะที่บอนด์ยีลด์อายุ 10 ปีของเยอรมนียังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 0% หลัง ECB ย้ำว่ามุมมองที่ว่าเงินเฟ้อจะชะลอลงในช่วงหลังจากนี้
- หุ้นสหรัฐฯ ปิดในแดนลบทั้ง 3 ดัชนี นักลงทุนขายทำกำไรก่อนการประชุมเฟดสัปดาห์หน้า ขณที่ ปธน. โจ ไบเดนมีท่าทีสนับสนุนเฟดให้ปรับลดมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพื่อดูแลเงินเฟ้อ
- ราคาทองคำปิดทรงตัว หลังดัชนีเงินดอลลาร์ฯ เริ่มฟื้นตัวขึ้น อย่างไรก็ดี ตลาดทองคำยังมีปัจจัยบวกจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียประคองอยู่ ด้านราคาน้ำมันปรับตัวลง โดยมีแรงกดดันจากตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นสวนทิศทางคาดการณ์ของตลาด  
- ไทยจะกลับมาเปิดลงทะเบียนรับนักท่องเที่ยว Test & Go ได้อีกครั้งในวันที่ 1 ก.พ. นี้ ขณะที่รมว.คลังประเมินเศรษฐกิจไทยปีนี้โตในกรอบ 3.5-4.5% ขณะที่ความท้าทายในปีนี้จะอยู่ที่ 3 เรื่อง ได้แก่ การคงอยู่ของโควิด-19 ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน และอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง
- ปัจจัยติดตามวันนี้ ได้แก่ 1) ข้อมูลการส่งออกของไทย 2) อัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่น และ 3) สถานการณ์การระบาดของโอมิครอน

 
 

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest