Display mode (Doesn't show in master page preview)

4 ตุลาคม 2567

Econ Digest

ค่าเงินบาท และตลาดหุ้นไทย (สัปดาห์ที่ 30 ก.ย. – 4 ต.ค. 67)

คะแนนเฉลี่ย

สรุปความเคลื่อนไหวค่าเงินบาท

  • เงินบาททำสถิติแข็งค่าสุดในรอบ 31 เดือนที่ 32.14 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงต้นสัปดาห์ท่ามกลางแรงขายเงินดอลลาร์ฯ จากการคาดการณ์ถึงความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในขนาดที่มากกว่า 0.25% อย่างไรก็ดี เงินบาทพลิกทยอยอ่อนค่าไปแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ที่ระดับ 33.24 บาทต่อดอลลาร์ฯ ตามทิศทางของสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชีย และสถานะขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ฟื้นตัวขึ้นหลังประธานเฟดส่งสัญญาณไม่เร่งลดดอกเบี้ย ซึ่งทำให้ยังคงมีความไม่แน่นอนว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในขนาดที่มากกว่า 0.25% หรือไม่ในการประชุมเดือนพ.ย.นี้ ประกอบกับมีปัจจัยหนุนเพิ่มเติมจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาด (อาทิ ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนรายงานโดย ADP และดัชนี ISM ภาคบริการเดือนก.ย.) และจากแรงซื้อเงินดอลลาร์ฯ ในฐานะสกุลเงินปลอดภัยท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ตึงเครียดในตะวันออกกลาง
  • สัปดาห์ระหว่างวันที่ 7-11 ต.ค. 2567 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 32.50-33.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนก.ย. ของไทยและสหรัฐฯ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์ราคาทองคำในตลาดโลกและสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค ดัชนีความเชื่อมั่นและตัวเลขเงินเฟ้อคาดการณ์ในมุมมองผู้บริโภคเดือนต.ค. ของสหรัฐฯ รายงานการประชุมเฟดเมื่อ 17-18 ก.ย. และสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ จากถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด


สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย

  • ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวผันผวนต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน โดยดีดตัวขึ้นในช่วงแรกตามปัจจัยบวกในประเทศ ก่อนจะร่วงลงในเวลาต่อมาตามปัจจัยลบจากต่างประเทศ ทั้งนี้หุ้นไทยแกว่งตัวกรอบแคบในช่วงแรกก่อนจะดีดตัวขึ้นแรงในวันที่ 1 ต.ค. ซึ่งเป็นวันแรกที่กองทุนวายุภักษ์ทยอยเข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทย โดยปัจจัยดังกล่าวกระตุ้นแรงซื้อหุ้นหลายกลุ่ม นำโดย กลุ่มแบงก์และเทคโนโลยี นอกจากนี้หุ้นไทยยังมีปัจจัยหนุนเพิ่มเติมจากประเด็นข่าวที่บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐฯ ประกาศเข้าลงทุนในประเทศไทยด้วยวงเงินที่ค่อนข้างสูง หุ้นไทยพลิกร่วงตั้งแต่ช่วงกลางสัปดาห์ตามทิศทางหุ้นต่างประเทศ โดยมีปัจจัยลบจากความกังวลต่อสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางระหว่างอิหร่านและอิสราเอล ส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้นออกมาเพื่อลดความเสี่ยง อย่างไรก็ดีหุ้นไทยฟื้นตัวกลับมาได้เล็กน้อยช่วงปลายสัปดาห์ โดยมีแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานซึ่งได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวขึ้น และกลุ่มเทคโนโลยีจากประเด็นข่าวควบรวมกิจการระหว่างบริษัทผู้ประกอบธุรกิจโทรคมนาคมและบริษัทด้านพลังงาน
  • สัปดาห์ที่ 7-11 ต.ค. 2567 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,425 และ 1,400 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,460 และ 1,475 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนก.ย. ของไทยและสหรัฐฯ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ทิศทางเงินทุนต่างชาติ บันทึกการประชุมเฟด (17-18 ก.ย.) และยอดค้าปลีกเดือนส.ค.ของยูโรโซน

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น