Display mode (Doesn't show in master page preview)

9 กุมภาพันธ์ 2567

Econ Digest

ค่าเงินบาท และตลาดหุ้นไทย (สัปดาห์ที่ 5-9 ก.พ. 67)

คะแนนเฉลี่ย

สรุปความเคลื่อนไหวค่าเงินบาท

  • เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 2 เดือนครึ่งที่ 35.98 บาทต่อดอลลาร์ฯ ทั้งนี้เงินบาทอ่อนค่าลงตามสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาคในช่วงต้นสัปดาห์ แต่สามารถฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนในช่วงต่อมาตามเงินหยวนที่แข็งค่าขึ้นช่วงสั้นๆ รับสัญญาณการเข้าดูแลเสถียรภาพตลาดหุ้นของทางการจีน ประกอบกับน่าจะมีแรงซื้อคืนเงินบาทเพื่อปรับโพสิชั่นก่อนการประชุม กนง. อย่างไรก็ดี เงินบาทพลิกกลับมาอ่อนค่าลงอีกครั้งในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ หลังผลการประชุมกนง. ซึ่งมีมติไม่เป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 2.50% และมีการปรับลดตัวเลขประมาณการจีดีพีไทยในปี 2567 ลงมา นอกจากนี้เงินบาทยังอ่อนค่าลงตามทิศทางเงินเยน หลังจากผู้ว่าการ BOJ กล่าวว่า BOJ จะยังคงใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไปอีกระยะ แม้อาจจะมีการยุตินโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบในระยะข้างหน้า ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ แข็งค่าขึ้นรับถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดที่สะท้อนว่า จังหวะการลดดอกเบี้ยของสหรัฐฯ อาจไม่เกิดขึ้นเร็ว เนื่องจากเฟดต้องการมั่นใจว่าอัตราเงินเฟ้อจะชะลอตัวเข้าสู่ระดับเป้าหมายที่ 2%    
  • สัปดาห์ระหว่างวันที่ 12-16 ก.พ. 2567 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 35.70-36.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินลงทุนต่างชาติ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ยอดค้าปลีก ดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนม.ค. ของสหรัฐฯ รวมถึงตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/66 ของญี่ปุ่น อังกฤษและยูโรโซน


สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย

  • หุ้นไทยทยอยขยับขึ้นในช่วงก่อนการประชุม กนง. โดยมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นหลายกลุ่มอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกลุ่มท่องเที่ยวและค้าปลีกที่คาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว และกลุ่มพลังงานที่มีแรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลก หุ้นไทยขยับขึ้นต่อเนื่องมายืนเหนือระดับ 1,400 จุดในช่วงกลางสัปดาห์ หลังกนง. มีมติไม่เป็นเอกฉันท์ให้คงดอกเบี้ย และปรับลดตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจปี 2567 ซึ่งทำให้ตลาดประเมินว่า มีโอกาสที่จะเห็นการผ่อนคลายนโยบายการเงินมากขึ้น อย่างไรก็ดีหุ้นไทยย่อตัวลงในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ตามแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ โดยมีการขายทำกำไรหุ้นบิ๊กแคปในหลายอุตสาหกรรม อนึ่ง ปริมาณการซื้อ-ขายของตลาดหุ้นไทยค่อนข้างเบาบางในช่วงปลายสัปดาห์ สอดคล้องกับการปิดทำการของตลาดหุ้นหลายแห่งในภูมิภาคในช่วงเทศกาลตรุษจีน
  • สัปดาห์ที่ 12-16 ก.พ. 2567 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,380 และ 1,370 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,400 และ 1,415 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ผลประกอบการงวดไตรมาส 4/66 ของบจ. ไทย ดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนม.ค. ของสหรัฐฯ ตลอดจนตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/66 ของยูโรโซน ญี่ปุ่นและอังกฤษ

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น